the extraction
the extraction ดำเนินเนื้อเรื่องดราม่าสลับกับซีนบู๊แอ็คชั่น ดราม่าก็จะเป็นชีวิตเรค อดีตภรรยาและชีวิตครอบครัวที่ร้องขอให้ช่วยชีวิต รวมถึงชีวิตของสองพี่น้อง พ่อค้ายาชาวจอร์เจีย ส่วนตัวคิดว่าการดำเนินเรื่องในส่วนของเนื้อหาที่เป็นดราม่า ค่อนข้างช้า ชวนง่วง จนอยากจะนั่งดูในโรง 4DX จะได้มีอะไรช่วยปลุกให้ตื่น
แต่ในส่วนของซีนแอ็คชั่นนั้นทำดีมาก ระเบิดตูมตาม ยิงกันอุตลุด extraction 2 เตะต่อยใช้ทุกลูกไม้มวยต่อสู้ ลุ้นมันส์ต่อเนื่อง น่าจะถูกใจคนชอบแนวแมนๆ บู๊ระห่ำ จนทำให้ลุ้นว่า ภาพยนตร์ Extraction เรื่องนี้จะไปได้ไกลสูงสุดกี่ภาค?? เพราะขนาดภาพยนตร์แนวเดียวกันอย่าง John Wick มีถึง 4 ภาค, Die Hard มี 5 ภาค, และ Mission Impossible มี 8 ภาค แหะๆ ไม่แน่อาจจะมีภาคใดภาคหนึ่งมาช่วยตัวประกันในไทยก็ได้นะ
แอ็คชั่นมันส์ระห่ำยังกับเล่นเกมส์
ความโดดเด่นของเรื่องนี้ต้องยกให้คิวบู๊ ที่ต้องยกความดีความชอบให้ผู้กำกับ แซม ฮาร์เกรฟ อดีตสตั้นต์แมน ที่ใส่ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญลงไปเต็มพิกัด ในการวางแผนและออกแบบซีนแอ็คชั่น ทำได้ดีและละเอียดถี่ถ้วน ใช้กล้องถ่ายทำที่ตัดต่ออกมาเหมือนถ่ายช็อตเดียวหลายซีน บางซีนยาวถึง 21 นาที
ดูไปลุ้นไปเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซีนแหกคุกได้ฟีลเหมือนกำลังเล่นเกมส์ชกต่อยเพื่อปลดแอกช่วยชีวิตนักโทษจริงๆ เพราะศัตรูเข้ามาทุกทิศทุกทาง ไม่มีแบบแผน รัวหมัดไม่ยั้ง อาวุธอะไรใช้ได้ เป็นยกมาใช้หมด มั่ววุ่นวายมาก แต่มันส์ซะใจขั้นเทพ ภาคแรกสนุกอย่างไร ภาคนี้เพิ่มเท่าทวีคูณกันไปเลยจ้า
หลังจากที่ดูจบก็แอบคิดว่ามันต้องเป็นหนังทุ่มทุนสร้างมากแน่ใช่ไหม เพราะซีนบู๊ มีทั้งในรถไฟ, บนดาดฟ้าของตึกที่สูงที่สุดในประเทศออสเตรีย (DC Tower สูง 220 เมตร), ในคุก, ในโบสถ์, และอื่นๆ ขาดแต่ยังไม่ได้ไปสู้กันในน้ำ แถมความวายวอด ก็มีมหาศาลทั้ง รถไฟตกรางและยังตีลังกาหลายตลบ
เฮลิคอปเตอร์ระเบิดจนพังพินาศถลาลงพื้นไป 3 ลำ และเครื่องบินเจ็ตระเบิด
เรียกว่ารถระเบิดที่เห็นในหนังแอ็คชั่นเรื่องอื่นเป็นอะไรที่จิ๊บๆ ไปเลยจ้า แถมเรื่องนี้ยิงกันกระหน่ำซัมเมอร์เซลสุดๆ เหมือนคำว่าเปลื้องกระสุนไม่มีในพจนานุกรม เพราะทั้งปืนสั้น ปืนยาว RPG ระเบิดมือ มีดสั้น ขวาน ตะปู สารพัดจะใช้เป็นอาวุธได้ ขนมาแน่นจอ ตัวร้ายแต่ละตัวก็ตายได้สะใจมว้าก กราฟฟิกซีจีดูสมจริง มีแค่ไม่กี่ช่วงที่ยังรู้สึกว่าสามารถทำดีกว่านี้ได้อีก โดยรวมงบประมาณทั้งหมดอยู่ที่ 65 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณสองพันกว่าล้านบาทไทย
นักแสดงนำ
หนุ่มคริส เฮมส์เวิรธ์ กับบทไทเลอร์ เรค มือปืนรับจ้างสเกลทั่วจักรวาล ภาคที่แล้วไปทำภารกิจในบังกลาเทศ ครั้งนี้มาทำภารกิจในจอร์เจียและออสเตรีย เพื่อช่วยน้องสาวอดีตเมียและลูกอีกสองคนของเธอออกจากคุก แต่ละภารกิจเฉียดตายทั้งนั้น ไม่ตายก็ใกล้เคียง สะบักสะบอมไม่มีชิ้นดี แข็งแรงอึดทึกทน
บู๊มันส์สุดยอดกับ Extraction 2 หนังแนวแอ็คชั่นผจญภัย กับภารกิจเสี่ยงตายช่วยชีวิตสุดระทึกขวัญ หลังจากภาคแรกเมื่อสามปีที่แล้วประสบความสำเร็จไม่เบา ครั้งนี้หนุ่มหล่อ คริส เฮมส์เวิร์ธ (Chris Hemsworth) หรือเทพเจ้าธอร์ จากภาพยนตร์จักรวาลมาร์เวล กลับมาอีกครั้งกับผู้กำกับคนเดิม แซม ฮาร์เกรฟ ที่จะพาคุณไปบุกตะลุยภารกิจช่วยชีวิตครอบครัวที่ติดอยู่ในคุกประเทศจอร์เจีย สนุกมันส์ บู๊ดุเดือดเลือดพล่านกว่าภาคแรกแค่ไหน ไปติดตามกับรีวิวนี้กันค่ะ
ภาพยนตร์ เป็นภาคต่อ หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้าไม่ได้ดูภาคแรกมาก่อนจะดูรู้เรื่องไหม ตอบตรงนี้เลยว่า extraction 2 ดูรู้เรื่องแน่นอนจ้า แต่ยังไงก็ขอรีแคปสั้นๆ ให้ตรงนี้ละกัน ภาพยนตร์ Extraction ภาคแรกสร้างดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง Ciudad ของนักเขียน อังเดร ปาร์ค และได้สองพี่น้อง โจและแอนโทนี่ รุซโซ่ ผู้กำกับภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่จักรวาลมาร์เวล มาช่วยเขียนบทภาพยนตร์ บอกเล่าเรื่องราวอดีตทหารที่ผันตัวมาเป็นมือปืนรับจ้าง ไทเลอร์ เรค (คริส เฮมส์เวิร์ธ)
กับภารกิจสุดโหดหินเข้าช่วยเหลือลูกชายของเจ้าพ่อค้ายา ที่ถูกจับเป็นตัวประกันเรียกค่าไถ่ในประเทศบังคลาเทศ กว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจเล่นเอาเลือดตาแทบกระเด็น มาภาคสองนี้ หลังจากไทเลอร์ เรค รอดชีวิตจากภารกิจแรกมาได้สำเร็จ เขาก็ปลีกวิเวกไปรักษาตัวและใช้ชีวิตอย่างสงบในชายป่าประเทศออสเตรีย จนได้รับว่าจ้างให้ช่วยเหลือแม่และลูกอีกสองคนที่เป็นครอบครัวของพ่อค้ายาชาวจอร์เจียผู้แสนโหดเหี้ยม ออกมาจากคุกในประเทศจอร์เจีย ไทเลอร์ตกลงรับทำภารกิจและขอความช่วยเหลือจากทีมนิค (โกล์ชิฟเตห์ ฟาราฮานี) และแยซ (อดัม เบสซา) พวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ ภารกิจจะอันตรายและระทึกขวัญแค่ไหน โปรดรับชมกันต่อทาง Netflix หนังยาว 2 ชั่วโมง 3 นาที มีพากย์ไทย
แถมเรื่องนี้ต้องพูดภาษาจอร์เจียด้วย หนุ่มคริสก็สมบทบาทมาก ต่อสู้เก่งบุกน้ำลุยไฟ ชอบตอนสลับปืนยาวมาเป็นปืนสั้นคล่องแคล่วมาก เตะต่อยมือเปล่าก็ดูสมจริง จะเรียกว่าเขาสร้างTyler Rake ให้เป็นตำนานฮีโร่พันธ์ุแกร่ง อึดทึกทน ขึ้นมาอีกหนึ่งคนก็คงไม่ผิดนัก
โกล์ชิฟเตห์ ฟาราฮานี รับบท นิค คาน เพื่อนร่วมงานของไทเลอร์ ภาคที่แล้วเป็นผู้ว่าจ้าง และเข้ามาช่วยในช่วงท้ายนิดนึง แต่ภาคนี้มีบทมากขึ้น เห็นความเก่งในการต่อสู้ของนิค มีคิวบู๊ชวนลุ้นระทึกไม่น้อย ทั้งตกหลังคา โดนทุ่ม ต่อสู้ประชิดตัว ใช้ขาล็อกคอ สารพัด ถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ความบู๊เป็นรองก็แค่ไทเลอร์เท่านั้น ผลงานในอดีตของสาวฟาราฮานีก็เช่น Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales (2017), The Upside (2017), และ Body of Lies (2008) เป็นต้น
ผู้กำกับภาพที่ผ่านงานถ่ายคิวบู๊มากประสบการณ์จาก ‘John Wick: Chapter 3 – Parabellum’ (2019) และได้ อเลกซ์ โรดริเกวซ (Alex Rodríguez) มือตัดต่อที่เคยผ่านหนังสุดยอดลองเทค ‘Children of Men’ (2006) มาแล้ว นับว่าเป็นการเลือกทีมงานที่น่าสนใจมาก และทำให้ด้านโปรดักชันนั้นอลังการสมการรอคอยมีฉากขนาดใหญ่ที่ขายได้หลายฉากให้จดจำ แม้หนังจะมีเนื้อเรื่องที่เข้าถึงง่าย มีการขยายเพิ่มความเป็นมนุษย์ของเรกด้วยการเผยด้านอ่อนแอที่ติดค้างในใจ เป็นการเคลียร์อดีตเพื่อเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงขึ้น
และขยายเรื่องราวด้วยองค์กรใหม่ ๆ เรียกได้ว่าเป็นภาคต่อที่ทำหน้าที่สะพานได้ค่อนข้างดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อด้านหนึ่งหนังนำเสนอตัวเองเป็นแอ็กชันนันสต็อปพอหนังมีจังหวะพักหายใจด้วยดราม่าขนาดย่อมที่เชย ๆ มันเลยดูขืนจังหวะหนังอยู่นิดหน่อย นอกจากนี้ความทะเยอทะยานในการออกแบบฉากแอ็กชันขนาดยาวอย่างลองเทค เมื่อพิจารณาว่าเป็นลองเทคที่ซ่อนการตัดต่อเชื่อมไว้ผสมเทคเข้าด้วยกันหลายช่วง เราจึงสัมผัสได้ตั้งแต่ช่วงที่มีความดิบของแฮนด์เฮลด์รุนแรงจนดูไม่เคลียร์ มาเป็นลองเทคงาม ๆ
ที่โชว์คิวแอ็กชันเทพ
ไปจนถึงฉากที่เห็นซีจีลอยหลอกตาชัดเจน หรือฉากที่ต้องยอมปล่อยให้โม้จนตลกแบบโดนปืนกลยิงถล่มแต่ยืนหลบหลังบันไดลิงแล้วไม่ถูกกระสุน ซึ่งยิ่งพอเทียบกับหนังเน็ตฟลิกซ์ที่โชว์ลองเทคในฉากจลาจลกลางเมืองแบบสมจริงอย่าง ‘Athena’ (2022) ก็ทำให้คิดว่าบางทีลดเวลาของลองเทคลงแล้วตัดต่อแบบปกติอาจจะได้ซีนแอ็กชันที่ดีกว่าก็เป็นได้ อันนี้ส่วนตัวรู้สึกชอบลองเทคในภาคแรกที่ดิบและดูจริงมากกว่าในภาคนี้ที่ประดิดประดอยมากไปหลายฉากจนดูไม่จริง และหากตัดฉากโชว์ไป
ส่วนตัวมีหลายฉากแอ็กชันที่ทำได้น่าสนใจแต่อาจถูกนำเสนอสั้นไปสักหน่อยอย่างฉากต่อสู้ในห้องออกกำลังกาย ฉากบนพื้นกระจกของตึกระฟ้า เป็นต้น สำหรับภาคนี้ก็คงพูดได้ว่าเป็นหนังที่ดูเพลินสนุกระทึกใจแบบยาว ๆ ลื่น ๆ ตื่นตาได้เยี่ยมอย่างเคย แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความธรรมดาหลายอย่างที่สอดแทรกมาทำลายภาพรวมของหนังให้ไปไม่สุดความสนุกสุดยอดอย่างที่ควรเป็น อย่างไรก็ตามหากมองว่ามันเป็นหนังที่ปูพื้นเพื่อสร้างจักรวาลของตัวเอง ก็ต้องถือว่าทั้งในส่วนบทและการคิดความหมายของฉากแอ็กชันแต่ละฉากนั้น
ทำได้น่าสนใจและพอเห็นอนาคตที่สดใสของแฟรนไชส์นี้ได้อยู่ไม่น้อย ขึ้นอันดับ 1 หนังและรายการที่มีผู้ชมกดชมบนสตรีมมิง Netflix เป็นอันดับ 1 ของไทยเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ Extraction ซึ่งนำแสดงโดยพี่ Chris Hemsworth เจ้าของบทเทพเจ้าสายฟ้าธอร์ ที่ได้หวนกลับมาร่วมงานกับสองพี่น้อง Russo ผู้กำกับ Avengers: Endgame ผู้กำกับที่มาอำนวยการสร้างหนังเรื่อง Extraction หรือชื่อเดิม Dhaka ที่อาจจะคุ้น ๆ ข่าวของหนัง เพราะยกกองมาถ่ายทำในประเทศไทยเมื่อปี 2018 และทีมงานชาวไทยก็มีโอกาสร่วมงานกับหนังระดับโลกหลายคน แม้ในเรื่องจะบอกว่าเรื่องราวเกิดในเป็นประเทศบังกลาเทศก็ตาม
ทอร์นิเก โกกริเคียนี รับบทเป็น ซูราบ เจ้าพ่อค้ายาตัวเบ้งในจอร์เจีย โหดเหี้ยมอำมหิต โกรธมากเมื่อรู้ว่าน้องชายตาย ยอมแลกทุกอย่างเพื่อล้างแค้น หนุ่มโกกริเคียนี ดูโหดดิบเถื่อนสมคาแรกเตอร์ เมคอัพสมจริงเข้ากับตัวละคร
อิดริส เอลบา รับบทเป็น อัลคอตต์ ผู้ว่าจ้างไทเลอร์ให้ช่วยชีวิตครอบครัวพ่อค้ายา จริงๆ อิดริสกับคริส นั้นเคยเจอกันมาแล้วใน THOR โดยเขารับบทเป็น Heimdall เทพเจ้าตาบอด
ถ้าคุณชอบภาพยนตร์ Extraction ภาคแรก หรือเป็นแฟนหนังแนวบู๊แอ็คชั่นเดือดๆ แนะนำ นักแสดงหนุ่มหล่อคริส เฮมส์เวิร์ธเดือดทะลุจอ สนุกเหมือนกำลังเล่นเกมต่อสู้ ทุ่มทุนสร้างสุดๆ ทำเอารถแข่งไล่ล่าในหนังแอ็คชั่นเรื่องอื่นดูธรรมดาไปเลย เพราะเรื่องนี้เขาสู้กันในคุกบ้าง ในรถไฟบ้าง
ระเบิดตู้มต้าม เฮลิคอปเตอร์ตก ไม่ใช่แค่ลำเดียว แถมยังมีรถไฟตีลังกา เครื่องบินเจ็ตระเบิด อยากให้คะแนนแปดอยู่นะ แต่ว่าไม่รู้ยังไง เพลียหรือมุมกล้องช็อตเดียว พอถึงซีนดราม่าทีไรซ่อนตาดำทุกที ขอให้คะแนน 7.5/10 แล้วกัน รับชมกันได้ทาง Netflix มีพากย์ไทย
Netflix ปล่อยทีเซอร์ของ ภาพยนตร์ แอคชั่นเดือดสุดระทึก (คนระห่ำภารกิจเดือด 2) นำแสดงโดย คริส เฮมส์เวิร์ธ ในบทบาท ไทเลอร์ เรค สำหรับภาคต่อของภาพยนตร์แอคชั่นฟอร์มยักษ์ อีกทั้งยังเป็นการกลับมาพบกันของผู้กำกับแซม ฮาร์เกรฟ โดยมี โจ และแอนโธนี รุสโซ นั่งแท่นโปรดิวเซอร์ ทั้งนี้ ทีเซอร์เผยให้เห็นฉากแอคชั่นที่เข้มข้นจุใจและอันตรายที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน ซีซั่นนี้จะทำให้เราลุ้นไปกับปฏิบัติการครั้งใหม่ที่เรคต้องกลับมาเสี่ยงตายเพื่อทำภารกิจสุดอันตรายอีกครั้ง ว่าแต่เขาจะสามารถเอาชีวิตรอดได้หรือไม่และภารกิจครั้งนี้จะอันตรายดุเดือดเชือดเฉือนขนาดไหน? มาร่วมลุ้นไปกับ สตรีมพร้อมกันทั่วโลกวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ทาง Netflix เท่านั้น!