รวมหนัง แบทแมน ไตรภาค Batman begins (2005) แน่ๆว่า การเป็นวีรบุรุษก็มีจุดบอบบาง เขาปฏิบัติดีให้เมือง ส่งอาชญากรส่งให้ตำรวจ ผู้คนก็พากันกลัวที่จะทำผิด แม้กระนั้นก็ให้ความรู้ความเข้าใจสึกว่ากางทแมนอยู่เหนือข้อบังคับ แล้วก็ตำรวจก็อยากได้ตัวเขา ความไม่ลงรอยกันในตนเองของเมือง เกลียดชังแต่ว่าก็อยากได้ ไม่ได้อยากแม้กระนั้นก็มีความเห็นว่ามีอยู่ดีแล้ว ชายผู้มีฉากหน้าเป็นชายหนุ่มผู้มั่งมีที่มัวแต่สนุกสนานกับงานเลี้ยง แต่ว่ายามรัชนีเขาเป็นค้างคาวยักษ์ออกเดินทางล่าคนเลวทราม

เรื่องย่อ บรูซ เวย์น ลูกชายของมหาเศรษฐีเครือญาติเวย์น ที่มีเงื่อนในอดีตกาล จากการที่บิดา แม่ ของเขาถูกฆ่าโดยขโมยที่อยากชิงทรัพย์พวกเขาในวัยเด็ก เขาเติบโตขึ้นมาด้วยความลำบากใจ และก็หวังที่จะฆ่าบุคคลที่ฆ่าบิดา แม่เขาให้ได้ แม้กระนั้นก็โดนชิงไปซะก่อน ในขณะที่เขาคว้างนั้น เขาก็ตกลงใจเริ่มเดินทาง เพื่อค้นหาตนเอง และก็รู้เรื่องภาวะจิตใจของผู้กระทำผิดกฎหมายได้มากขึ้น จนได้ร่วมกับ สมาพันธ์ที่เงา เพื่อฝึกฝนศิลป์การต่อสู้ รวมทั้งได้กลับมาสู่เมืองกอตแธมอีกครั้ง ท่ามกลางสังคมอันเลวทราม เขาก็เลยตกลงใจเป็น Batman เพื่อรักษาความถูกต้อง

รวมหนัง แบทแมน ไตรภาค

หนังหัวข้อนี้เหมาะสมกับคนใด สำหรับ Batman Begins นั้น เหมาะสมกับผู้ที่ถูกใจดูหนังวีรบุรุษที่เน้นย้ำเนื้อหาจิตใจผู้แสดง และก็ยอมรับได้กับการเล่าแบบค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ที่จะพาพวกเราไปรู้จักความเป็นมาของผู้แสดง Batman ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังเงื่อนในวัยเด็ก รวมทั้งในตอนที่เขาเติบโตขึ้นมา ไปจนกระทั่งในขณะที่เขาเปลี่ยนเป็น Batman ไปแล้ว

หนังก็ใส่รายละเอียดในส่วนนี้มาดีมากมายๆจนกระทั่งแม้ว่าจะไม่ค่อยมีฉากแอคชั่นสักเยอะแค่ไหน แต่ว่าหนังก็ยังคงความเข้มข้นเอาไว้ได้ คนไหนกันที่ถูกใจหนังวีรบุรุษที่หมองๆจากค่าย DC หรือถูกใจงานวีรบุรุษของโนแลนอย่าง The Dark Knight และก็ The Dark Knight Rises กันแล้ว ก็อย่าลืมมองภาคแรกนี้กันด้วย

‘Batman Begins’ รวมหนัง แบทแมน ไตรภาค ทำให้พวกเราได้ทราบจะกับตัวร้ายที่จะอยู่กับพวกเราไปตลอดจนถึงภาคด้านหลัง เขาเป็นคนฝึกปรือให้บรูซกลายเป็นกางทแมนผู้มีความสามารถในเชิงต่อสู้แล้วก็ก้ามผ่านผ่านความหวาดกลัวของตนเองได้ ทำให้พวกเราได้ทราบว่าเขามีความคิดอย่างไรต่อเมืองก็อธแธม แล้วก็เคยทำอย่างนี้กับเมืองใดมาบ้าง ระหว่างที่ตัวร้ายอื่นทุกตัวก็อยู่ในสภาวะการชักชวนของเขาเสียทั้งผอง ก็ยังดีที่ข้างกางทแมนยังเพียงพอมีแนวร่วมอยู่บ้าง แม้ว่าจะน้อยนิดก็ตาม

The Dark Knight (2008)

เรื่องย่อ ภายหลังจากเหตุทุกสิ่งราวกับจะสงบลง จากการร่วมแรงกันระหว่าง กางทแมน ผู้หมวดจิม กอร์ดอน แล้วก็อัยการเขต ฮาร์วีย์ เดนท์ ดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดีสำหรับในการมานะปัดกวาดผู้กระทำผิดกฎหมายในเมืองนี้ทั้งยังแบบข้างหน้าและก็เบื้องหน้าเบื้องหลัง จวบจนกระทั่งการปรากฏตัวของคนร้ายสุดเลวอย่าง โจ๊กเกอร์ ที่ทำให้จริยธรรมในตัวแต่ละคนจะต้องเปลี่ยนไปอีกที เนื่องจากว่านี่เป็นยอดเยี่ยมที่คนร้ายคู่แข่งขันตลอดไปในจักรวาลของอัศวินวิกาลคนนี้

หนังหัวข้อนี้เหมาะสมกับคนไหน สำหรับ The Dark Knight นั้น อาจจะเหมาะสมกับคนชอบดูหนังซุปเปอร์วีรบุรุษ เพียงแค่ไม่ใช่แนววีรบุรุษปกติที่แจ่มใสแบบค่าย Marvel สักเยอะแค่ไหน แต่ว่าเป็นความืดหมองสมชื่ออัศวินรัต

เนื่องจากว่าหนังเดินเรื่องอย่างเคร่งเครียด

ประกอบกับการโยนข้อความสำคัญจริยธรรมมาให้หมดทั้งตัวละครแล้วก็ผู้ชมนั้นจำเป็นต้องเลือกไปพร้อมเพียงกัน ก็ยิ่งยกฐานะจากหนังวีรบุรุษไปสู่หนังอาชญากรรมที่ตั้งปริศนาเชิงจริยธรรมได้อย่างยอดเยี่ยม ฉะนั้นผู้ที่ถูกใจหนังซุปเปอร์วีรบุรุษที่ดูแล้วไม่เครียดบางครั้งก็อาจจะรังเกียจหนังหัวข้อนี้ก็เป็นไปได้ แม้กระนั้นแม้คุณได้มอง Batman Begins ภาคก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามาแล้ว คุณจะตกหลุมรัก The Dark Knight เลยจริงๆ

ในช่วงเวลาที่ Batman กลับมาภาคนี้ Christian Bale มองมีริ้วรอยบนบริเวณใบหน้าเพิ่มเติมอีกขึ้นเล็กน้อย รวมทั้งยังมีอัลเฟรดเป็นคนสนิทสนมคนเดิมรอดูแล เวลาที่อัยการเขตคนใหม่อย่าง ฮาร์วีย์ เดนท์ (Aaron Eckhart) กำลังได้ เรเชล ดอว์ส (ที่โอกาสนี้สลับตัวเป็น Maggie Gyllenhaal) ไปเป็นแฟน

ส่วน จิม กอร์ดอน (Gary Oldman) เขาแปลงเป็นหัวหน้ากองปราบฯ คนรับเข้าใจการปล้นเงินของกลุ่มมาเฟีย ข้างหลังกลุ่มของพวกเขา (ที่ก็เลือกมาจากพวกโกงกินทั้งหมด) รวมทั้งกางทแมนไปเล่นจุดตายเป็นเรื่องเงินของพวกมันเข้า ก็เลยทำให้พวกมันคิดลักขโมยเงินในแบงค์ออกมา เพื่อย้ายไปเก็บที่อื่นๆนั่นเอง

ภาพรวมทั้งหมดทั้งปวงของ รวมหนัง แบทแมน ไตรภาค The dark Knight ยังคงรักษามาตรฐานรสในลักษณะเดียวกันกับ Batman Begins ไว้ได้ครบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความรู้สึก “เบามาก” ภายในส่วนลึกของบรู๊ซ เวย์น ที่ชอบโผล่ขึ้นมาให้มองเห็นเป็นช่วงๆรวมทั้งโน่นก็เป็นเสน่ห์สำคัญของนักแสดงตัวนี้ . . ผู้แสดงที่ . . ถ้าหากเป็นในโลกของข้อเท็จจริง คนเกือบจะทั่วโลกอาจเห็นว่าเขาเป็นผู้ที่มีทุกๆอย่างอย่างล้นฟ้า แต่ว่าตัวเขาเองและก็คนสนิทเพียงแค่นั้น รู้สึกตัวดีว่าเขามีมากเกินไปในอะไรบางอย่าง แม้กระนั้นเขาขาดจนถึงคร่ำครวญหาในอีกหลายๆสิ่ง จากการสูญเสียมาตั้งแต่เด็ก

ถึงแม้หนังวีรบุรุษส่วนใหญ่มักจะต้องมีฉากวีรบุรุษประมือกับคนร้าย แม้กระนั้นกับ The Dark Knight พูดได้ว่าแทบเป็นส่วนน้อย เนื่องจากว่าหนังไปให้เวลากับการเล่าเรื่อง บทสำหรับพูดคมๆรวมทั้งข้อความสำคัญในเรื่องราวที่น่าดึงดูดมากยิ่งกว่า ทำให้ฉากปะทะของ Batman ในเรื่องนี่แทบนับได้อย่างยิ่งจริงๆว่ามีกี่ฉาก แต่ว่าดูเหมือนจะทุกฉากที่ออกมานั้นก็ล้วนแต่เป็นฉากที่น่าจำแทบทั้งนั้น ในส่วนของหลักสำคัญของหนังก็เต็มไปด้วย Dilemma ต่างๆถึงหนทางคุณธรรม ก็กล่าวได้ว่ามอบพานไปถึงทุกนักแสดงแบบสุดๆถึงแม้ว่าจะตัว Batman เองก็ยังควรมีจุดตัดสินดวงใจที่จำต้องเลือก จนกระทั่งเสียความเป็นวีรบุรุษไปได้แบบเดียวกัน

สรุปรายละเอียด พูดได้ว่าน่าจะเป็นหนังซุปเปอร์วีรบุรุษในดวงใจของคนอีกจำนวนไม่น้อย จากผลงานควบคุมของเสด็จบิดา Christopher Nolan ที่นำพาผู้ชมทะยานไปไกลได้กว่าสิ่งที่มองเห็นเสมอ ซึ่งกับหนังชุด Batman นี้ก็ไม่ต่างอะไรกัน เพราะเหตุว่าภายหลังที่เขาได้พาพวกเราไปตรวจโลกของ Batman คนใหม่กันไปแล้ว มาภาคนี้ก็เป็นการยกฐานะหนังขึ้นไปได้ไกลกว่าภาคแรกอย่างมากมาย ด้วยคู่อริที่สมน้ำสมเนื้ออย่าง โจ๊กเกอร์ ประกอบกับคนร้ายรายอื่นๆที่หนังมีพื้นที่ให้อย่างเต็มเปี่ยม เลยทำให้มันแปลงเป็น Batman ภาคที่ครบถ้วนบริบูรณ์เข้มข้นมากมายอย่างยิ่งจริงๆ

The Dark Knight Rises (2012)

คริสโตเฟอร์ โนแลน กลับมาอีกรอบเพื่อปิดสามภาค กับเรื่องราวข้างหลัง กางทแมน ล่องหนไป 8 ปี จากการเช็ดกหลงผิดว่าเป็นผู้มีส่วนรับผิดชอบสำหรับเพื่อการตายของ ฮาร์วีย์ เดนท์ แม้กระนั้นทุกๆสิ่งทุกๆอย่างกำลังจะแปรไปเมื่อมีแมวขโมยหัวหมอเผยโฉมพร้อมด้วยทำการลับ รวมทั้งการปรากฏตัวของคนร้ายใส่หน้ากาก เบน

ที่มีแผนในการป่วนปั่นก็อตแธม ซึ่งบีบให้บรูซจำต้องออกมาจากการหลีกตัว แต่ว่าถึงแม้ว่าเขาจะกลับมาสวมผ้าที่มีไว้สำหรับคลุมและก็หน้ากากอีกรอบ กลับดูราวกับว่าเขาไม่เหมาะสมกับการเป็นกางทแมนอีกต่อไป กล่าวได้ว่าในภาคนี้ โนแลน ขุดเอาทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่มีออกมาใช้ไม่ว่าจะเป็นฉากระเบิดที่ยิ่งใหญ่เลิศ แล้วก็สามารถสรุปเรื่องราวทั้งหมดทั้งปวงของตรีภาคนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม

กางทแมน อัศวินรัตติผงาด The Dark Knight Rises เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์วีรบุรุษจากการ์ตูนชุดมนุษย์ค้างคาว มีตารางเข้าฉายในกรกฎาคม ปีคริสต์ศักราช 2012 เป็นภาพยนตร์ภาคลำดับที่สาม และก็ภาคสุดท้ายในตรีภาคมนุษย์ค้างคาวที่ดูแลโดยคริสโตเฟอร์ โนแลน

รวมหนัง แบทแมน ไตรภาค ต่อจากภาพยนตร์เรื่องกางทแมน บีรับประทานส์ (Batman Begins, 2005) แล้วก็กางทแมน อัศวินรัชนี (The Dark Knight, 2008) ควบคุมภาพยนตร์โดย คริสโตเฟอร์ โนแลน เขียนบทโดยตัวโนแลนเองและก็โจนาธาน ผู้เป็นน้องชาย แสดงนำโดยคริสเตียน เบล, ไมเคิล เคน, มึงปรี่ โอลด์แมน, รวมทั้งมอร์แกน ฟรีแมน ข้อมูลที่เผยออกมากล่าวว่า เรื่องราวของภาคนี้จะดำเนินต่อจากภาคอัศวินวิกาลตรงเวลา 8 ปี แล้วก็จะมีตัวร้ายหลักเป็นเซลีท้องนา ไคล์ แล้วก็เบน (แสดงนำโดยแอนน์ ฮัทธาเวย์ รวมทั้งทอม ฮาร์ดี้ เป็นลำดับ)

บทภาพยนตร์ของหัวข้อนี้มีความเป็นเหตุเป็นผลมีความเป็นมา

รวมทั้งทุกสิ่งทุกอย่างที่หนังเสนอจะเน้นย้ำไปสู่คำตอบในฉากต่อๆไปสำหรับบทภาพยนตร์หัวข้อนี้ยังซ่อนเร้นแง่คิดหรือแง่คิดอีกหลายๆข้อแต่ว่าที่เน้นย้ำๆเป็นการแบ่งชนชั้นทางสังคม โดยใช้ฐานะเป็นตัวแปรสำคัญ ซึ่งหนังบากบั่นยัดเหยียดหัวข้อนี้มากมายจนถึงบางเวลาส่วนตัวมีความคิดว่ามันเกินความจำเป็นไหม และก็ที่สำคัญเป็น หนังพรีเซนเทชั่นอกมาตรงๆมิได้มีมิติสำหรับการพรีเซนเทชั่นก็เลยทำให้บางคราวการเอ๋ยถึงข้อความสำคัญเดิมๆโดยใช้การพรีเซนเทชั่นเดิมๆมันจะมีผลส่งผลให้เกิดความเบื่อหน่ายขึ้นได้ซึ่งกล่าวโดยรวมๆแล้ว บทภาพยนตร์ยังไม่มีมิติหรือสร้างการเกิดในตัวบทซักเท่าไหร่ส่วนตัวรู้สึกว่า The Dark Knight ทำเป็นเป๊ะกว่านี้มากมาย

มาดูฉากจบนีสนึง ขอบอกเลยว่าทำเป็นบริบูรณ์มากมายๆคนไม่ใช่น้อยบางครั้งอาจจะมองดูไปที่ว่าจะมีภาคต่อไหม แม้กระนั้น จขกท. กลับเห็นว่าการที่โนแลนให้จบอย่างงี้ เหมือนทำให้เห็นว่า puracash แม้กางทแมนจะวางมือ แต่ว่าก็ยังมีวีรบุรุษขึ้นมาใหม่บางครั้งอาจจะใส่หน้ากาก หรือเปล่าใส่ก็ได้ เพียงเค้าทำเพื่อประโยชน์ของชาว Gothamเค้าก็สามารถที่จะเป็นวีรบุรุษได้ซึ่งขอสารภาพว่าจุดนี้ทำให้การจบของหนังชุดกางทแมนของโนแลน จบได้อย่างสมบูรณ์แบบ..

ชื่อไทยที่แปลกันตรงๆชัดๆไปเลยว่า “กางทแมน อัศวินรัตติ ผงาด” ภายหลังจากพวกเราได้ทำความรู้จักกับแหล่งกำเนิดใน ‘Batman Begins’ ได้ทราบจะกับจุดแปลงสู่ด้านกลัดกลุ้มของซูเปอร์วีรบุรุษ ใน ‘The Dark Knight’ ปีนี้ พวกเราจะได้เจอกับการกลับมาผงาดอีกรอบของกางทแมน

จะว่าไปแล้ว ภาคลำดับที่สองของสามภาคนี้ นับว่าเป็นหนังซูเปอร์วีรบุรุษระดับมาสเตอร์พีซไปเลยจ้า เนื่องจากถึงแม้หนังจะยาว แม้กระนั้นมั่นใจว่า ทุกคนรับรองได้ว่ามันเป็นหนังที่ยอดเยี่ยมมากมาย กางทแมนในแบบอย่างของโนแลนค่อนข้างจะขมักเขม้น รวมทั้งเล่นข้อความสำคัญที่หนักแน่นสลับซับซ้อน การเดินเรื่องที่มีเปลี่ยน และไม่ตรงกันระหว่างผู้แสดง แต่ว่าแม้กระนั้น หนังประเด็นนี้เขาตั้งมั่นทำเป็นตรีภาค

ภายหลังใน รวมหนัง แบทแมน ไตรภาค ‘The Dark Knight’ พวกเราได้พบว่าผู้แสดงบางตัวตายไป ในภาคนี้ นักแสดงอีกหลายตัวก็ยังคงได้รับผลพวงจากเรื่องราวนั้นอยู่ โดยยิ่งไปกว่านั้นบรู๊ซ เวย์น ที่ยังคงเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่ในบ้านข้างหลังใหญ่มานาน 8 ปี ในภาวการณ์ที่ก็อธแธมอยู่ในสภาวะสงบไม่มีอาชญากรรม อาชญากรโดนจับขังเรือนจำไปหมดแล้ว เมืองนี้ดูเหมือนจะไม่ได้อยากวีรบุรุษอีกต่อไป

ก่อนจะได้พบว่า คนร้ายตัวฉกาจเกิดขึ้นอีกรอบแล้ว มันเป็น เบน (Tom Hardy) มนุษย์ร่างยักษ์ที่จำต้องใส่หน้ากากอยู่เสมอเวลา แถมยังจะต้องมาพบกับสาวสวยตาลุกที่ดอดมาลักขโมยข้าวของเครื่องใช้ในบ้านไปเสียอีก แถมไม่ใช่ใครกันแน่ที่ใด คุณเป็น Catwoman (Anne Hathaway) นั่นเอง และจากนั้นก็ยังมีนายตำรวจชายหนุ่มคนใหม่ จอห์น เบลค (Joseph Gordon-Levitt) และก็สาวสวยที่รับหน้าที่สำคัญในเวย์น เอนเตอร์พนาลัยส์ อย่าง ไม่แรนด้า เทต (Marion Cotillard) ที่มาช่วยเสริมกองทัพให้ภาคนี้แน่นปึ้ก