ดูหนัง ออนไลน์ Crater (2023) เครเตอร์ ภายหลังจากบิดาของเขาเสียชีวิต เด็กผู้ชายที่เติบโตในอาณานิคมเหมืองบนพระจันทร์เริ่มเดินทางเพื่อตรวจปล่องภูเขาไฟในตำนานกับเพื่อนสนิททั้งยังสี่คน ก่อนจะถูกย้ายไปยังดาวดวงอื่นอย่างคงทน สำหรับผู้ใดที่ชอบใจหนังเสี่ยงสไลต์ดิสนีย์ ที่เต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจและการสำรวจสิ่งอัศจรรย์แบบไม่มีพิษไม่มีภัย ก็คงเอ็นจอยไปกับ “Crater” หนังเสี่ยงไซไฟเรื่องใหม่แบรนด์ดิสนีย์ ที่พร้อมจะพาผู้ชมออกไปตรวจดวงจันทร์ กับเหล่าเยาวชนผู้แทนของคน Gen Z แน่นอนว่าหนังยังอัดแน่นไปด้วยความร่าเริงรวมทั้งการชับสมาคมที่มิตรภาพใสๆที่รู้จักดีกันดี
Crater เล่าราวของ เคเลบ เด็กหนุ่มสาวที่เติบโตอยู่ที่อาณานิคมเหมืองบนดวงจันทร์ แต่เมื่อพ่อของเขาจากไปในอุบัติเหตุ ทำให้เขาควรต้องถูกนำตัวส่งกลับไปยังดาวโอเมก้าตามแนวทางปฏิบัติของเยาวชนที่ไม่มีซึ่งผู้ดูแลร่วมอยู่ด้วยในพื้นที่อาณานิคม คราวก่อนจะเดินทางกลับไปสู่มาตเทือกเขาไม่ เขากับเพื่อนๆชาวกรุ๊ปอีก 4 คนได้ตกลงปลงใจกันเริ่มเดินทางตรวจรวมทั้งตามหาปล่องภูเขาไฟในตำนานที่พ่อเขาเคยเล่าให้ฟัง แปลงเป็นทางประสบภัยคราวเต็มไปด้วยเรื่องที่พวกเขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิต
เรื่องย่อ ดูหนัง ออนไลน์ Crater (2023) เครเตอร์
นี่สำเร็จงานตอนนี้ของ “ไคล์ แพทริค อัลวาเรซ” จากซีรีส์ Homecoming แล้วก็ 13 Reasons Why เขาถูกใจคลุกคลีอยู่กับผลงานแนววัยรุ่นมาบ่อยครั้ง รวมทั้งในหนังหัวข้อนี้ก็เช่นกัน Crater ยังคงเป็นหนังเยาวชนอีกอย่างเช่นเตย และก็โน่นเป็นลักษณะเด่นที่ทำให้เขาสามารถถ่ายทอดมันได้อย่างไหลลื่นพอดิบพอดีกำลังดี บนโครงสร้างรองรับของความใสสะอาดสะอาดของหนังดิสนียที่ถูกใจสร้างเพื่อกลุ่มคนมองดูครอบครัวโดยเฉพาะ
Crater อาจพูดได้ว่าเป็นโครงการที่ใหญ่สำหรับเขาอยู่ไม่น้อย ด้วยเหตุว่ามันเป็นหนังสตรีมมิ่งที่เต็มไปด้วยความไซไฟและจากนั้นก็ผจญภัย หากแม้เขาการเลือกการนำเสนอที่ไม่จำเป็นต้องใช้ทุนสร้างอะไรมากเท่าไรนัก เพราะว่าหนังอาจจะจำเป็นที่จะต้องใช้กลวิธีพิเศษสำหรับในการสร้างโลกในอวกาศออกมาให้น่าละลานตาด้วยซีจีไอ แต่ว่าขณะเดียวกันก็ยังมีซีนที่จะจำต้องถ่ายทำในฉากและสตูดิโออยู่ไม่น้อยเช่นกัน แน่ใจว่าเด็กๆต้องเล่นและปฏิบัติแสดงอยู่หน้าบูลสกรีนอยู่ในหลายๆคัท
“จอห์น กริฟฟิน” จากซีรีส์ From มารับหน้าที่เขียนบทหนังเรื่องนี้ ดูหนัง ออนไลน์ Crater (2023) เครเตอร์ ที่บางทีก็อาจจะถือว่าเป็นบทหนังเรื่องแรกของเขา ส่วนประกอบบทหนังบางทีก็อาจจะไม่มีอะไรแปลกใหม่อะไรเท่าไร หนังมีกลิ่นความเป็นหนังไซไฟคลาสสิกแบบ Lost in Space หรือ Space Champ ด้วยการกล่าวหาเป็น coming of age ของวัยรุ่นเข้าไป มีกลิ่นกรุ๊ปดาราแบบ Stranger Things แทรกสอดเแนวคิดแล้วหลังจากนั้นก็การเติบโตของเด็กเข้าไปประสาน จังหวะของหนังอาจจะยังไม่ได้สมบูรณ์แบบ มีความเนื่อยผสมปนเปไปบ้าง
โดยขั้นตอนแรกไฮไลต์ที่ดิสนีย์ยังคงทำเป็นเด่นเจริญก้าวหน้า ก็คงเป็นการแคสติ้งดาราหนัง ที่ต้องรับสารภาพเลยว่าพวกเขาคัดสรรกันมาค่อนข้างจะดีใช้ได้ แม้ว่าเด็กๆในประเด็นนี้จำนวนหลายชิ้นจะเป็นตัวละครเด็กใหม่เกือบทั้งหมด แม้ว่าพวกเขามีเอกลักษณ์และก็ขับติดอยู่แรกเตอร์ออกมาได้เด่นในรูปแบบของตัวเองได้ไม่น้อย และจากนั้นก็โน่นก็กลายเป็นจุดที่มีเสน่ห์ของหนังดิสนีย์ ที่เบาๆทำให้ผู้ชมเชื่อตามไปกับเสน่ห์ของนักแสดง
ดารา Crater (2023)“ไอเซอาห์ รัสเซลล์-เบลลีย์” ถือว่าเป็นเด็กดิสนีย์สมรรถนะของรุ่นนี้ ถึงเขาพึ่งจะไปได้ด้วยในซีรีส์ Family Reunion แต่ว่าปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเด็กคนนี้มีของไม่น้อย และก็การถ่ายทอดการแสดงของเขาจัดว่าน่าพอใจ โดยเฉพาะซีนอารมณ์นับว่าทำเป็นเยี่ยมที่สุด ดัง “บิลลี บาร์รัตต์” เติบโตขึ้นมาอย่างความสามารถ จากที่เราเคยเห็นเขายังเป็นเด็กในหนัง Marry Poppings Returns กลับมาอีกรอบโตเป็นผู้ชายรวมทั้งเสน่ห์ฟุ้งกระจาย กล้องที่เอาไว้ถ่ายภาพหนังรักเขาเป็นอย่างดีในขณะที่ “ออร์สัน ฮง” กับ “โทมัส บอยซ์”
ก็มาเป็นตัวละครสมทบที่ช่วยเสริมรวมทั้งเติมเต็มให้กับหนังหัวข้อนี้ให้แข็งแรงขึ้น แม้กระนั้นที่ละสายตาไปไม่ได้เลยก็คือ “แม็คเคนนา เกรซ” นักแสดงเด็กที่เราเห็นคุณโลดแล่นมีผลงานมาตั้งแต่เด็กแรกคลอด น่าจะรู้จักกันดีจากใน Gifted ที่เล่นคู่กับ คริส อีแวนส์ ในช่วงเวลานี้โตเป็นเด็กสาวสวยคม ที่มาด้วยการแสดงที่น่าสนใจ ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาเป็นสิบปี ที่ถือว่าแคสติ้งทั้ง 5 คนหลักของประเด็นนี้ เยี่ยมในจุดที่แข็งแรงของหนังหัวข้อนี้
รวมถึงแน่นอนงานสร้างใน Crater คงจะไม่กล่าวถึงไม่ได้ ด้วยความที่ถือว่าเป็นหนังที่ทุ่มสร้างไม่มีความแตกต่างจากงานโปรดักชั้นหนังฉายโรงเลย แม้ว่าจะเป็นฉากเป็นประจำซีนคุ้นๆที่เคยเห็นในหนังไซไฟในอนาคตของมาหลายเรื่องแล้วก็ตาม แต่งานวางแบบต่างๆถือว่าทำออกมาได้น่าพอใจ ไม่ได้ทำออกมาให้ดูล้ำจินตนาการอะไรขนาดนั้น ยังใส่ความเป็นมนุษย์และจากนั้นก็ใกล้เคียงกับทางความเป็นจริงในปิดล้อมของโลกในอีก 200 กว่าปี
ข้อสรุป เครเตอร์ ในช่วงเวลาที่การออกแบบฉากอวกาศนั้นก็ไม่ได้ห่วย อยู่ระดับที่ถูกใจอย่างยิ่งจริงๆหากแม้ผู้ชมก็รู้ดีว่าเป็นแค่เพียงงานซีจีที่สร้างฉากเอาอย่างขึ้นมาเท่านั้น แต่พวกเขาก็เอาอย่างสร้างออกมาได้อย่างเก็บรายละเอียดได้ดี ไล่มาตั้งแต่โครงการของสถานีอวกาศ ไปจนถึงรายละเอียดของฝุ่นผงไม่มีน้ำหนักแบบผิวดวงจันทร์ เป็นเยี่ยมในงานสร้างหนังดิสนีย์ที่ไม่ใช่หนังโรง แต่ไม่ได้ดูถูกผู้ชมเลยสักนิดสักหน่อย
โดยเหตุนี้ในภาพรวมแล้ว Crater ถือได้ว่าเป็นหนังประสบภัยไซไฟที่พร้อมไปกับการเจริญเติบโตของมิตรภาพในกลุ่มวัยรุ่นที่บางครั้งอาจจะไมได้มีจุดให้น่าตื่นเต้นอะไรเท่าไร ถึงแม้ว่าแปลงเป็นหนังฟีลกู้ดในอวกาศเบาๆกับเนื้อหาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของหนัง ถึงโดยรวมๆแล้วนั้นหนังอาจจะไม่ได้มีจุดที่หวือหวารวมทั้งน่าจำอะไรได้มากสักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าในด้านแคสติ้งกับงานสร้างของหนังก็จัดว่าสอบได้ แล้วก็อย่างต่ำๆประเด็นหลักของหนังก็ชนเข้าถึงจิตใจผู้ชมได้ไม่เยอะแยะก็น้อย
รีวิวหนัง “No One Will Save You”
ถ้าเกิดคนใดที่ชอบใจหนังแนวตื่นเต้นคละเคล้าไซไฟแบบคาดคะเนอะไรมิได้ คงจะจำเป็นต้องเหลียวหันมามองประเด็นนี้ “No One Will Save You” ที่จะมาปฏิบัติภารกิจกระตุกขวัญรวมทั้งบีบบังคับปลุกอารมณ์ให้กับทุกคนเจริญตลอด 90 นาทีของหนังหัวข้อนี้ ที่รับประกันว่าบางทีอาจเดาแล้วก็คิดอะไรล่วงหน้ากับหนังหัวข้อนี้ไปก่อน ด้วยเหตุว่ามันบางครั้งอาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณคิดไว้
No One Will Save You เล่าราวของ ไบรน์ อดัมส์ หญิงสาวที่อยู่อาศัยอยู่ในบ้านที่คุณเคยชินมาตั้งแต่เด็กๆอย่างสันโดษ แม้กระนั้นเหตุการณ์ของคุณจำเป็นต้องเปลี่ยนไปเพียงแต่ชั่วช้าข้ามคืน เมื่อจำเป็นต้องประจันหน้ากับการบุกรุกบ้านของแขกที่ไม่อาจจะกำหนดได้แจ้งชัดว่ามันเป็นตัวอะไร ทราบแค่เพียงมันตัวแปลกแปลก รวมทั้งไม่บางทีอาจทราบถึงเป้าหมายการมาของมัน
นี่เป็นผลงานปัจจุบันของ “ไบรอัน ดัฟฟิลด์” นักสร้างภาพยนตร์ดาวรุ่งที่น่าจับตาดูอีกคนภายในยุคนี้ โดยนี่นับได้ว่าเป็นผลงานดูแลหนังยาวเรื่องที่ 2 ในอาชีพของเขา ภายหลังที่เคยเดบิวต์จากภาพยนตร์ตลกสยองขวัญ Spontaneous มาเมื่อตอนก่อนวัววิด-19 โดยคราวนี้เขายังคงรับหน้าที่ควบคุมรวมทั้งเขียนบทหนังเองอีกเหมือนปกติไบรอัน ดัฟฟิลด์ เคยเป็นคนเขียนบทหนังมาก่อน เขาเคยแต่งโครงเรื่องให้กับหนังดังๆอย่าง The Babysitter, Divergent: Insurgent แล้วก็ปัจจุบันกับ Love and Monsters ที่มองจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เขาออกจะเก่งกับงานด้านการเขียนหนังสยองขวัญ-ตื่นเต้นเป็นทุนเดิมอยู่ไม่น้อย แม้กระนั้นคราวนี้กลับมาในแนวสยองขวัญเหมือนเคย แม้กระนั้นเพิ่มอีกด้วยความเป็นไซไฟลี้ลับ ซึ่งดูเหมือนจะยังเข้ามือเขาได้อย่างดีเยี่ยม
การเล่าเรื่องของ No One Will Save You จัดว่าวับไวพอดี เปิดเรื่องมาก็เกือบจะไม่ต้องเสียเวล่ำเวลาปูเรื่องอะไรทั้งหมด เริ่มมายังไม่ถึงสิบนาทีก็(กระตุกขวัญ)เข้าใจเลย กลิ่นของหนังก็บางครั้งอาจจะคล้ายกับเอาชีวิตรอดท่ามกลางเหตุการณ์ที่ไม่รู้จักอิโหน่อิเหน่ แบบ A Quiet Place หรือ Nope ที่พาผู้ชมติดตามชีวิตของผู้แสดงหลักไปเรื่อยเก็บข้อมูลและก็เนื้อหาแบบรู้ทันกัน ถือได้ว่าเป็นกิมไม่กสำหรับในการเล่าที่เชื้อเชิญผู้ชมติดตามได้อย่างดีเยี่ยม
No One Will Save You แทบไม่เสียเวล่ำเวลาปลดปล่อยให้เยิ่นเย้ออะไรก็แล้วแต่การเล่าเรื่องสไตล์ฉับๆฉับพลันกับอารมณ์ผู้แสดงก็นับว่าทำออกมาเจริญ การผลิตบรรยากาศในหนังก็ถือว่าทำออกมาก้าวหน้าด้วยเหมือนกัน เป็นสิ่งที่เชื้อเชิญผู้ชมเฝ้าติดตามมองเหตุการณ์ต่อๆไปได้อย่างแบบเกาะหน้าจอ ถึงแม้มันจะมีกลิ่นความเป็นสูตรสำเร็จผสมปนเปอยู่ แม้กระนั้นสูตรนี้ก็ค่อนข้างจะเวิร์กกับความหรรษาที่หนังใส่เข้ามา
สิ่งหนึ่งที่ถูกใจในหนัง No One Will Save You ก็คงเป็นการใส่เต็มแล้วก็จัดเต็มของหนัง ดูหนัง ออนไลน์ Crater (2023) เครเตอร์ หนังไม่มีการออมชอมลดเลี้ยวใดๆก็ตามเพราะว่าราวกับพวกเขาทำการบ้านมาดีว่าผู้ชมต้องการมองเห็นอะไรแล้วก็มองอะไร สิ่งที่คุณต้องการมองเห็นก็คงจะได้มองเห็น เวลาที่ส่วนประกอบศิลปแล้วก็ส่วนประกอบภาพของหนังก็สร้างบรรยากาศออกมาชักชวนสยดสยองดี แม้ว่าจะจำเป็นต้องจ้องดูหน้าจออยู่บ้างบางส่วน เนื่องจากว่าบางฉากมันก็มืดไปสักนิดสักหน่อย แต่ว่ายังมีเพลงประกอบของ “โจเซฟ ทราขว้างเนเซ” มาช่วยบิวท์อารมณ์ได้ออกจะดีตลอดทั้งเรื่อง
รีวิวหนัง “Target ทาร์เก็ต เป้าเฉือน
ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่า การสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ออนไลน์ ได้แปลงเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งสำหรับเพื่อการดำเนินชีวิตทุกวันที่แสนสบายของคนเราในยุคนี้ แต่ว่าความง่ายสำหรับในการค้าขายพวกนั้น ก็เต็มไปด้วยความดาร์กที่แอบอยู่มากมายก่ายกอง โดยยิ่งไปกว่านั้นปัญหาที่เกิดขึ้นกับการรุกล้ำข้อมูลส่วนตัวของอีกข้าง หลายมาเป็นหลักสำคัญจารกรรมข้อมูลออนไลน์ที่เป็นปัญหาาเรื้อรัง รวมทั้งโน่นก็กลายเป็นผลึกมาเป็นหนังตื่นเต้นจากประเทศเกาหลี อย่าง “Target ทาร์เก็ต เป้าเฉือน” (หรืออีกชื่อ Don’t Buy the Seller) ที่เปิดเผยแล้วก็ตีแสกหน้าจังๆสะท้อนไลฟ์สไตล์ของคนตอนนี้
Target ทาร์เก็ต เป้าเฉือน เกิดเรื่องราวของ ซูฮยอน ที่ได้กดสั่งเครื่องซักผ้ามือสองมาจากเว็บแห่งหนึ่ง ภายหลังที่พึ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ห้องใหม่ แม้กระนั้นปรากฏว่าคุณได้รับเครื่องซักผ้าที่ไม่ตรงปก ทำให้คุณรู้สึกโกรธและก็ระบายอารมณ์ด้วยการโพสต์ติเตียนลงในโลกอินเตอร์เน็ต เพื่อเตือนเป็นแบบอย่างให้กับคนอื่นๆ ปรากฏว่านับตั้งแต่นั้นมา คุณได้รับใจความแปลกและก็ความประพฤติปฏิบัติเชิงขมข่มขู่รุกรามที่มั่นใจว่าคงจะมาจากคนขายออนไลน์รายนั้น ที่ทำให้ชีวิตของคุณไม่เจอความเงียบสงบอีกเลย
นี่ผลงานปัจจุบันของผู้กำกับชายหนุ่ม “พัคฮีกน” ที่เคยแจ้งเกิดขึ้นมาจากหนังดัง Insadong Scandal เมื่อหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ที่ถือได้ว่าเป็นการถือเอาการใกล้ตัวของทุกคนมาจับจับสร้างความตื่นเต้นที่เป็นข้อเตือนสติ ซึ่งบางทีก็อาจจะเป็นอะไรซึ่งสามารถเกิดขึ้นกับผู้ใดกันจริงๆก็ได้ ถึงหนังจะค่อนข้างจะมากับสูตรสำเร็จที่รู้จักดีขอแพ็กหนังตื่นเต้นทั่วๆไป แต่ว่าจำต้องสารภาพว่าหนังประเด็นนี้ทำออกมาได้สุดทาง สะใจ ถึงอารมณ์ ทำให้ผู้ชมเชื่อฟังแล้วก็เอาอกเอาใจลุ้นไปกับผู้แสดงจำพวกที่แทบจะลืมหายใจ
สำหรับบทหนังของ Target ทาร์เก็ต เป้าเฉือน บางครั้งก็อาจจะมิได้มีอะไรใหม่ puracash รีวิวเว็บพนัน แม้กระนั้นสามารถใส่เนื้อหารวมทั้งเปิดเผยออกมาในคัดค้านทำนองที่น่าติดตามได้ตลอดทั้งเรื่อง แนวทางการเล่าก็ไม่ไดสลับซับซ้อนอะไร แค่เพียงพาผู้ชมตามติดชีวิตของตัวละคนนำหญิงของเรื่อง ที่จะต้องเจอหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆภายหลังที่กดสั่งซื้อของออนไลน์ แม้กระนั้นสิ่งที่ได้มาไม่ตรงปก รวมทั้งเบาๆยกฐานะความเข้มข้นและก็ตื่นเต้นขึ้่แม่น้ำละน้อย แบบที่มิได้เหนือความมุ่งหวัง
ถึงแม้เหตุรวมทั้งผลในบางประเด็นของผู้แสดงนั้น อาจส่งผลให้ผู้ชมทั้งยังถูกใจและไม่ถูกใจสำหรับในการตกลงใจของคุณ แม้กระนั้นนั้นก็ถือว่าเป็นเสน่ห์ความเพลิดเพลินของหนัง หนังใส่ร้ายหวังรวมทั้งความกลัดกลุ้มเข้ามาในหนังแบบปะปนไป ที่ทำให้ผู้ชมจำต้องนั่งลุ้นรวมทั้งเอาใจช่วยกันอย่างใส่ใจ บอกเลยว่าในตอน 20 นาทีท้ายที่สุดของหนังหัวข้อนี้ คงจะไม่มีผู้ใดนั่งติดเบาะได้หรอกนะ