2023 movie releases

2023 movie releases ดูหนังออนไลน์ใหม่ หนังใหม่

2023 movie releases สำหรับคนเขียน หนังของพัคชานอุค มองสนุกสนานทุกเรื่อง ถึงแม้ว่าความมานะบากบั่นสับขาหลอก ตีฟองให้เรื่องสลับซับซ้อนแล้วก็หักมุม อาจจะเกินพอดีไปบ้าง แม้กระนั้น Decision to Leave มองกลมกล่อมละมุนละไมรวมทั้งชวนชม บางครั้งอาจจะด้วยด้วยเหตุว่าเสน่ห์ของศิลปินทั้งสอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถังเหว่ยในบทโซเร เหมือนกับหนังสายสืบดีๆเรื่องอื่นๆการ “สืบสาว” ในที่นี้ไม่ใช่เพียงแต่สืบคดีหรือค้นหาข้อเท็จจริงของเรื่องราวสาขาบทภาพยนตร์เริ่มแรกดีที่สุด

แม้กระนั้นเป็นการ “สืบสาว” เข้าไปข้างในจิตใจเพื่อหาแรงผลักดันของความประพฤติปฏิบัติของผู้แสดง เพราะเหตุไรโซเรถึงย้ายมาประเทศเกาหลี เพราะเหตุไรคุณถึงสมรส เพราะอะไรผัวคุณก็เลย (ดูอย่างกับว่าฆ่าตัวตาย) และก็เพราะเหตุไรสายลับของพวกเราก็เลยตกหลุมรักหญิงหม้ายสาวลึกลับคนนี้ ปริศนาบางปัญหาไม่มีคำตอบ แต่ว่าการถามมันทำให้หนังมีความลึกล้ำ รวมทั้งทำให้ช่วงสุดท้ายของ Decision to Leave เป็นการขมวดจบที่น่าจำเป็นอย่างมาก

วัยวุ่นฮ่า! ชื่อที่เป็นคำที่ออกเสียงเหมือนกันที่คงจะรู้กันแล้วว่า นี่เป็นหนังภาคที่ 5 ของหนังชุด “วัยชุลมุน” ที่มีจุดเริ่มแรกตั้งแต่ปี 2519, 2520 และก็ 2521 เป็นลำดับ จากหนังภาคต่อที่ไล่เรียงมาตั้งแต่ “วัยวุ่น”, “รักชุลมุนวุ่นวาย” รวมทั้ง “ชื่นโกลาหล” รวมถึงยังมีอีกภาคที่ล้ำสมัยขึ้นมาหน่อยใน “วัยสับสน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น” ที่เคยออกฉายในปี 2548 ก่อนหน้านี้ แล้วก็พล็อตแนวไขคดีการฆาตกรรมที่เขย่าผสมจังหวะตลกขบขันร้ายออกมาได้สนุกสนานพอดี movie 2023 จนถึงทำให้จอห์นสันได้เข้าชิงรางวัลออสการ์

เรื่องราวใน วัยสับสนฮ่า! ยังคงจุดโฟกัสอยู่ที่ชีวิตของ ตั้ม กับ โอ๋ ที่ยังครองรักและก็เป็นคู่ครองมายาวนาน พวกเขาอายุปิ้งไปสู่วัยเกษียณอายุแล้ว แม้กระนั้นยังจำต้องประจันหน้ากับปัญหาใหม่ๆที่เข้ามาในชีวิตเสมอ โดยยิ่งไปกว่านั้นปัญหาความรักอลหม่านของ โต๋ หลานชายที่พึ่งจะกลับมาจากอเมริกา จำเป็นต้องดำเนินรอยตามราวกับเขาตอนวัยรุ่นเป๊ะๆกับการผ่านด่านสุดหินปราบบิดาแฟนสาว คุณอั้ม รักแบบใหม่รวมทั้งครั้งใหม่จะเสร็จหรือเปล่านะ

สิ่งที่เป็นมิตรมากมายๆสำหรับผู้ชมซีรีส์ ‘Gudetama: An Eggcellent Adventure’ เป็นการที่มันมีความยาวต่อตอนสั้นมากมายระหว่าง 9-12 นาทีเพียงเท่านั้น มองชั่วโมงกว่าๆก็จบซีซันแล้วฉะนั้นมันเลยเป็นซีรีส์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเพื่อการกลับมาบ้านเหน็ดเหนื่อยๆแล้วเปิดมองความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้าไข่เกียจคร้านกับลูกไก่ชากิปิโยะเพื่อฮีลจิตใจ แล้วก็หลายครั้งด้วยสิที่พวกเราก็ต้องการประพฤติตนขี้เกียจคร้านแบบเจ้าข้าเดทามะบ้างแม้ว่าจะเพียงแค่ในจินตนาการก็เถิดนะ (ฮ่าาาาา)

ส่วนดาราหนังที่เป็นคนก็ปฏิบัติภารกิจได้อย่างยอดเยี่ยมอาทิเช่น อิโนะอุเอะ ผู้กำกับรายการทีวีที่ได้ อคิโยชิ นาคาโอะ และก็ผู้ช่วยสาวที่ได้ เซเรนา โมโตลามาสวมบทนำก็ทำให้ซีรีส์เพลิดเพลินและก็ได้สาระดีเยี่ยมเลย โดยยิ่งไปกว่านั้นแง่คิดของการเป็นคนทำงานหนักหรือการพยายามหามุมมองดูที่ใช่เยอะเกินไป หรือจะเป็นซารุโตกิ ไม่นากาว่า ในบทนายกฯความชื่นชอบต่ำก็ชี้ให้เห็นว่าเพียงแค่กลับมุมมองก็นำไปสู่ไฟสำหรับการปฏิบัติงานได้

2023 movie releases

รีวิวหนัง “วัยยุ่งเหยิง 5 ตั้ม-โอ๋ ตัวตึง”

อาจจะจำต้องบอกเลยว่า วัยรุ่นแบบใหม่ในสมัยอาจจะไม่น่าจะมีคนไหนกันแน่ทันต้นกำเนิดของหนังประเด็นนี้กันแน่นอนนี่คงเป็นหนังที่จะนำพาคนสมัยผู้ที่เกิดหลังสงครามโลกครั้งที่สอง หรือคนตอนต้นๆเจเนอเรชั่นเอ็กซ์ ได้ย้อนกลับไปนึกถึงรวมทั้งถลิวหาย้อนวันวานในสมัยก่อนที่เคยหวานชื่น ด้วยเหตุว่าอดีตกาลแฟนวัยรุ่นในตำนานภาพยนตร์ไทย ‘ตั้ม’ กับ ‘โอ๋’ ได้กลับมาอีกรอบใน “วัยยุ่งเหยิง 5 ตั้ม-โอ๋ ตัวตึง” ที่ยังคงสืบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา แม้ว่าจะล่วงผ่านไปแล้วถึง 40 ปี

ทำให้เว้นเสียแต่ความคิวต์และก็ อารมณ์ขันที่โปรยปรายกันอีกทั้งเรื่องแล้ว สำหรับผู้ชมในวัยผู้ใหญ่คงจะได้รับสารที่มันแฝงไว้ภายใต้เรื่องราวที่เสมือนไร้สาระอยู่เช่นกันนะ เนื่องจากว่าแต่ละคำบอกเล่าของเจ้าไข่ขี้คร้านกลับออกมาแยบคายอย่างไม่น่าเชื่อตั้งแต่ทีแรกๆที่มันกล่าวถึงตัวตนในฐานะไข่บนสายพานซูชิก็ดันเปลี่ยนเป็นปรัชญาชั้นสูงที่ถูกบอกกล่าวผ่านซูชิได้อย่างเห็นภาพ หรือการไปเผชิญกับเจ้าไข่เน่าก็ชี้ให้เห็นว่าช่วงชีวิตไม่ว่าจะไข่หรือคนมันก็แสนสั้น การใส่ความหมายของชีวิตให้พบต่างหากที่ราวกับการปกป้องคุ้มครองไม่ให้ชีวิตบูดเน่าไร้ประโยชน์ไปซะก่อน

อย่างที่เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่แรกว่า คุณลุงๆป้าๆแล้วก็คนรุ่นบิดารุ่นแม่ที่เติบโตมาในตอนสมัยเริ่มของหนังหัวข้อนี้คงจะอินเป็นพิเศษ 2023 movie releases ด้วยเหตุว่าเหล่าดาราหนังชุดเริ่มแรกต่างโผล่กลับมาสร้างสีสันในหนังประเด็นนี้เป็นช่วงๆช่วยคลายความนึกถึงบรรยากาศเก่าๆเมื่อวันวานได้อยู่ไม่น้อย โดยในคราวนี้ “เอ๋ รุ่งเรือง” ยังมารับหน้าที่เป็นผู้กำกับหนังด้วยตัวเองด้วย ทำให้บรรยากาศแล้วก็โทนต่างๆของหนังโดนจับใส่เข้าทางได้อย่างดีเยี่ยม

นี่เป็นการรวมกลุ่มของศิลปินต่างรุ่น ทั้งยังรุ่นก่อนและก็แบบใหม่ผสมกันเอาไว้อย่างน่าดึงดูด นอกเหนือจาก เอ๋ รุ่งโรจน์ จะกลับมาสวมบทบาทเป็น ตั้ม อีกที “จิ๋ม ลลนา” ที่ปลดเกษียณจากหน้าที่แสดงในแวดวงไปแล้ว ยังเต็มอกเต็มใจที่จะกลับมาเป็น โอ๋ ในหนังประเด็นนี้อีกคราว ร่วมด้วย “จิระวดี อิสรางฉันรในอยุธยา” ที่ยังกลับมาเป็นสาวซ่าส์ นักจัดรายการวิทยุอ๋อ แล้วก็สมทบด้วย “ชรัส เฟื่องอารมณ์”, “แน็ค ชาลี”, “พิม พิมประภา” และก็ “จิ๊บ ปกฉัตร”

แล้วก็ตัวซีรีส์จะไม่มีชีวิตชีวาไปเลยแม้ขาดกลุ่มบรรยาย โดยจากการฟังเสียงบรรยายทั้งยังภาษาประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งภาษาไทยขอสรุปเลยว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกันมากมายๆขอรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงบรรยายกวนๆของคุณคมสรร ทะเลบดี ในบทกุเดทามะ และก็เสียงสุดคิวต์จั๊กกะจี๋หัวใจของ คุณสิษฐารัตน์ ปี่ทองคำ ผู้ครอบครองสมญานามบีม เซ็นเซ (BeamSensei) ในบทชากิปิโยะ ก็ยิ่งทำให้อารมณ์ของเสียงบรรยายภาษาไทยของซีรีส์ได้ประสิทธิภาพใกล้เคียงเสียงต้นฉบับมากมายเลยครับผม

เรื่องเริ่มที่ ไมล์ส บรอน (Edward Norton) มหาเศรษฐีผู้ครอบครองบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ อัลฟา (Alpha) ได้ส่งบัตรเชิญร่วมวงทริปพักร้อนรายปีบนเกาะส่วนตัวสุดหรูไปถึงบรรดาเหล่ากลุ่มคู่หูต่างขั้วของเขาเอง อีกทั้ง เบอร์ดี เจ (Kate Hudson) สมัยก่อนดารานางแบบที่ผันตัวมาทำธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้า มองค วัวดี (Dave Bautista) สตรีมเมอร์กล้ามบึ้กผู้บ้าความเป็นผู้ชายแท้ แคลร์ เดเบลลา (Kathryn Hahn)

ผู้ว่าการเมืองคอนเน็ตทิคัตที่กำลังสมัครลงคะแนนเป็นวุฒิสมาชิกด้วยการยกแนวนโยบายด้านสภาพแวดล้อม ไลโอเนล เหม็นตุสแซง (Leslie Odom Jr.) นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ แอนดี แบรนด์ (Janelle Monáe) อดีตกาลผู้ร่วมตั้งอัลฟา รวมทั้ง เบอนัวต์ บทดลองก์ (Daniel Craig) สายลับอัจฉริยะที่อยู่ดีๆก็ถูกเชื้อเชิญมาแบบไม่ทราบอิโหน่อิเหน่ แต่ว่าจู่ๆก็มีเหตุการฆ่าเกิดขึ้นกึ่งกลางทริปนั้น เบอนัวต์ บทดลองก์ ก็เลยจะต้องลงมือไขคดีปัญหาเพื่อหาให้ได้ว่า “คนใดกันฆ่าสหาย ? “

ระหว่างที่ค้างแรกเตอร์คู่รอง โต๋-อั้ม ที่ทำขึ้นมาเพียงแต่เป็นคู่พ้องจองของคู่ชีวิตต้นฉบับ 2023 movie releases ก็แปลงเป็นเคมีคู่แต่งงานแบบจืดชืดๆแห้งๆไม่มีมิติใดอย่างสิ้นเชิง หน้าที่ต่างๆมองง่ายดังละครยามเช้าวันเสาร์ เดินเรื่องตามไดอะล็อกแบบราบเรียบแล้วก็เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จ พลอยทำให้การแสดงของ แน็ค ชาลี กับ พิม พิมประภา ก็มองจืดจางตามไปด้วย แล้วก็แปลงเป็นปัญหาที่จะส่งไปถึงซีซัน 2 โน่นเป็นรองเท้าส้นสูงสีเขียวคู่หนึ่ง

ช่วงเวลาสำหรับการเดินทางอันนานมาก วันหนึ่งแซ็ก (เฟียนน์ ไวท์เฮด) ศึกษาและทำการค้นพบว่าน้ำสีฟ้านั้นทำให้เขาหมดอารมณ์ความรู้สึก เขาก็เลยเชิญชวนให้คริสโตเฟอร์ (ไท เชอริดินแดน) เลิกดื่มมัน เพื่อสัมผัสกับความรู้สึกอันแปลกใหม่อันแสนยอดเยี่ยม จากการเชิญเพื่อนฝูง 1 คน เริ่มแผ่กว้างวงกว้างขึ้นไปเรื่อยในเวลาเดียวกัน ริชาร์ด (วัวลิน ฟาร์เรลล์)

นักวิทยาศาสตร์ที่อุทิศตัวเองให้กับแผนการนี้แล้วก็เป็นผู้ที่ดูแลเด็กอีกทั้งสามสิบคนมาพร้อมกับมือ หากแม้เขาจะทราบว่าการเดินทางคราวนี้จะสิ้นสุดลงด้วยการที่ตนเองจะสิ้นอายุขัยบนยานอวกาศก่อนถึงจุดหมายปลายทาง แต่แปลงเป็นว่า เกิดเหตุการณ์ที่นึกไม่ถึงขึ้น เมื่อระหว่างที่เขาออกไปซ่อมยาน เขาก็เสียชีวิตลงอย่างปัญหาคล้ายกับว่า โดนเงาดำๆรุกราน

รีวิว Glass Onion: A Knives Out Mystery

ถ้าเกิดยังจำกันได้ เมื่อปี 2019 หนังแนวสอบสวนสืบสวนสไตล์รหัสคดีเรื่อง ‘Knives Out’ ความสามารถการควบคุมของผู้กำกับความสามารถเด็ดที่ควบคุมอะไรก็ปังอย่าง ไรอัน จอห์นสัน (Rian Johnson) เข้าฉายในโรงภาพยนต์เมื่อปี 2019 กระแสในเวลานั้นเรียกว่ามาแรงมากมายๆทั้งยังการขนดาราระดับ A-List มาร่วมแสดงเนืองแน่น การเอา เดเนียล เคร็ก (Daniel Craig) ที่ยังติดภาพสายสุดโก้ เจมส์ บอนด์ (James Bond) มารับบทสายสืบอัจฉริยะมาดกวน เบอนัวต์ บทดลองก์ (Benoit Blanc)

แน่ๆว่า วัยยุ่งเหยิงฮ่า! ได้เซอร์วิสแฟนคลับรุ่นริเริ่มเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการใส่ท้องจังหวะดนตรีได้รับความนิยมอมตะหลายๆเพลงที่เลื่องลือมาจนถึงทุกวันนี้เนื่องจากมีจุดดำเนินจากหนังหัวข้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพลง “ยับ”, “คุณหวานใจ (ยกวับ ยกวับ)” หรือ “ส้วมอยู่คราวใด” ที่เอามาปรับเปลี่ยนคำขอใหม่แบบแกงเวอร์ชั่นต้นฉบับที่ก็ยังฟังชินหูแล้วก็เนื่องจากไปอีกในลัษณะหนึ่ง

แม้กระนั้นหนังหัวข้อนี้ก็ยังคงไม่ประสบความสำเร็จในด้านการนำเสนอในหลายๆมุม แม้ว่าจะมีความมานะบากบั่นพรีเซนเทชั่นออกมาในต้นแบบหนังรักที่มีกลิ่นของความเป็นหนังครอบครัว แต่ว่าภาพโดยรวมนั้น วัยยุ่งเหยิงฮ่า! ยังคงค่อนข้างจะสะเปะสะปะสำหรับในการจับหัวข้อต่างๆมายัดใส่เอาไว้กันกระทั่งเหลวเทอะไปหมด แปลงเป็นหนังที่เกือบจะไม่มีหลักแกนอะไรก็ตามอยู่เลยก็เลยเป็นสาเหตุของชื่อหนังแปลกๆในภาคนี้ว่า ‘Glass Onion: A Knives Out Mystery’ หรือ ‘การฆาตกรรมรื่นเริง ผู้ใดฆ่าเพื่อนฝูง’ ประเด็นนี้ล่ะครับผม

แถมภาคแรกเลยปัดกวาดรายได้ทั้งโลกเข้ากระเป๋าค่ายไลออนส์เกต (Lionsgate) ไปเหนาะๆ312 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียงแค่ 40 ล้านเหรียญ ในสมัยที่หนังซูเปอร์ฮีโรกระจัดกระจายเมือง รายได้ขนาดนี้จัดว่าไม่ธรรมดาเลย ไม่ธรรมดาจนกระทั่งขั้นที่ 2023 movie releases Netflix จำเป็นต้องยอมทุ่มเงิน 450 ล้านเหรียญ (14,000 ล้านบาท) เพื่อซื้อสิทธิ์การสร้างภาค 2 มาไว้กับตัว เอาง่ายๆเป็น Netflix ก็อยากได้หนังที่หน้าหนังดี รับประกันคำชมเชยมาเสริมแต่งแพลตฟอร์มนั่นแหละ

ค้างแรกเตอร์ของนักแสดงก็ไม่ค่อยมีมิติออกมาให้มองเห็น ตั้ม-โอ๋ ก็ยังคงเป็นพวกเขาคนเดิม คู่ครองสุดที่รักปานกลืนรับประทาน ชายเป็นเสาหลักครอบครัว กับหญิงที่เป็นแม่บ้านจอมหึง และก็ยังไม่ไว้วางใจ-สงสัยผัวนอกใจอยู่เป็นประจำๆเป็นบุคลิกลักษณะของตนเองแบบคลาสสิกที่ยังปรากฏให้มองเห็นอยู่ในหนังหัวข้อนี้ แม้กระนั้นโชคร้ายที่ติดอยู่แรกเตอร์กลุ่มนี้กลับทำให้หนังมองเชยรวมทั้งเชยไปสักนิด ในเมื่อยุคยุคและก็เทคโนโลยีต่างๆได้ปรับปรุงไปไกลจากเดิมแล้ว

ถ้าหากภาคที่แล้วเป็นการเล่าเรื่องในสไตล์ Whodunnit ในแบบนิยายของ อกาธา คริสตี (Agatha Christie) ที่มีแนวทางของตนกระจ่าง เน้นย้ำกรรมวิธีการหักมุมของตัวเรื่องราว ปั่นรวมกับความพราวแพรวของตัวบทที่แทรกสอดมุกขำขันร้าย มุกล้อเลียนหัวข้อสังคม แล้วก็ความสามารถการแสดงขั้นเทวดาของเหล่าดาราหนัง ซึ่งจริงๆครึ่งแรกของภาคนี้ก็ยังคงเป็นแบบงั้นครับเนื่องจากว่าตัวหนังครึ่งแรกให้เวลาไปกับการปูเรื่อง ปูผู้แสดง รวมทั้งปูเรื่องราวไปสู่ความเป็น Whodunnit

นอกเหนือจากนี้ วัยชุลมุนฮ่า! ยังแอบมีกลิ่นคล้ายกับสไตล์หนังลักษณะเดียวกันกับที่ผู้กำกับ “พชร์ อานนท์” ยอมถือมาใส่ โน่นเป็นการนำเอาเหตุการณ์ข่าวสารที่เคยเกิดขึ้นในสังคมมาดัดใส่เอาไว้เป็นหัวข้อเนียนๆถึงแม้ว่าบางจุดก็ค่อนข้างจะมองสะเปะสะปะแล้วก็มั่วนิ่มไปสักนิดสักหน่อย อยู่ๆนักแสดงจะขับร้องมิวสิคัลกลางศาล หรือ กำเนิดกรณีศึกช่วงชิงหวยรางวัลที่ 1 กัน ทุกๆอย่างโดนจับใส่เข้ามาแบบเจื่อนๆ

แต่ว่าท่ามกลางใจความสำคัญยิบย่อยที่หนังใส่เข้ามานั้น ก็มีส่วนดีอยู่บ้างเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุว่าจุดแข็งเปลี่ยนเป็นว่า หนังสามารถให้ผู้แสดงอย่าง ตั้ม ที่เป็นทนายผู้ที่มีความชำนาญมากมายประสบการณ์ ถ่ายทอดรวมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประมวลกฎหมายได้อย่างมีความเป็นจริงแล้วก็แทรกสอดวิชาความรู้ให้กับผู้ชมได้มีคุณประโยชน์อย่างแนบเนียนดี

ซึ่งรวมถึงธีมการจิกกัดหลักสำคัญร่วมยุค ที่จะว่าไปมันก็เป็นแถวทางของ ‘Knives Out’ ไปซะแล้วล่ะ โดยยิ่งไปกว่านั้นครึ่งแรกของตัวหนังที่หล่อเลี้ยงแผนภูมิความรื่นเริงใจด้วยการจิกกัดวิถี New Normal แถมยังหันไปจิกกัดเหล่าบรรดานักธุรกิจแวดวง Tech Company ด้วย โดยยิ่งไปกว่านั้นบรรดา Tech Nerd รวมทั้งที่นักเขียนถูกใจมากมายส่วนตัวก็คือ การแซะคำว่า ‘Disruption’ ครับผม

เป็นมิได้เพียงแค่เอามาแซะผ่านติดอยู่แรกเตอร์นักแสดงสิ่งเดียว แม้กระนั้นยังแอบแซะเหล่า Disruptor ว่าอันที่จริงแล้วก็ไม่ได้แตกต่างจากนักธุรกิจเละนั่นแหละ ทั้งผองนี้สะท้อนผ่านไดอะล็อกของ ไมล์ส บรอน ได้ย้อนถกเถียงแสบง่ามใจมากๆยิ่งมองก็ยิ่งทราบทรงเลยว่าอีตานี่มัน อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ผสม สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) ชัดๆแถมยังทำออกมาได้โคตรจะเพลิดเพลินเลยล่ะ

ก็แอบโชคร้าย ที่หนังภาคนี้มิได้เอ่ยถึงและก็เชื่อมโยงไปถึงภาคที่แล้วเลยนิดหน่อย ผู้แสดงอื่นๆที่ยังต้องการมองเห็น ไม่ว่าจะเป็น ใบกล้วย กับ หนามเตย บุตรสาวกับลูกชายของพวกเขา กลับไม่มีการกล่าวถึงในภาคนี้อย่างโชคร้าย ทั้งๆที่ภาคก่อนเคยบากบั่นก่อใจความสำคัญเอาไว้ได้ค่อนข้างจะน่าดึงดูดแล้วก็ยังสามารถเอามาปรับใช้เล่าต่อในตอนนี้ได้อยู่สรุปว่าโดยสรุปแล้ว วัยยุ่งเหยิงฮ่า!

ก็น่าจะเป็นหนังที่พอเพียงทำให้คนสมัยก่อนๆที่ทันเวอร์ชั่นต้นฉบับได้คิดถึงวันวานได้อยู่ เพียงในด้านการนำเสนอของหนังยังคงออกจะขาดตกบกพร่องอยู่หลายจุด โดยยิ่งไปกว่านั้นความไม่สมเหตุและก็เอากลิ่นแนวการฆาตกรรมขบขันร้ายในสไตล์ ‘Knives Out’ กลับมาใช้ แม้กระนั้นเรื่องราวทั้งคู่ภาคมิได้ต่อกันครับ ไม่จำเป็นที่ต้องมองภาคแรกมาก่อนก็ได้ แม้กระนั้นถ้าเกิดดูแล้วก็จะเริ่มเข้าใจกลิ่นของความเป็น ‘Knives Out’ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ในตอนที่ผ่านมาในซีซัน 1 ยังไม่มีจุดไหนเป็นจุดพีคนะคะ แต่ว่าทุกจุดเป็นจุดที่ละสายตามิได้ เนื่องจากทุกฉากทุกตอน มีความนัยที่จะส่งไปถึงฉากอื่นๆในตอนหน้า แล้วก็ที่แน่นอนขณะนี้นางเอกของพวกเรามีคณะทำงานพร้อมรบรวมทั้งได้เปิดตัวปั่นประสาทไปเป็นที่เป็นระเบียบแล้ว ข้างในเรื่องราวจะมีฉากยิบๆย่อยๆที่บางทีอาจเป็นชนวนแม้กระนั้นไม่ทันสังเกตอยู่เยอะแยะ แต่ว่าจะมีของสิ่งหนึ่งที่แอบเด่น

ภายหลังที่วัยรุ่นกลุ่มนี้ขาดคนชี้แนะ พวกเขาก็เริ่มทำทุกสิ่งทุกอย่างตามใจตนเอง 2023 movie releases ฉีกกฎทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง ยานลำนี้กำลังจะเคลื่อนไปด้วยความคลั่ง ความร้ายแรง และก็หายนะบางสิ่งบางอย่างได้คืบคลานเข้ามาโดยที่พวกเขาไม่ทันตั้งตัวโชคร้ายที่ Voyagers แทบจะสามารถเปลี่ยนเป็นหนังจิตวิทยา ที่เล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้แสดงได้ตลอดทาง แม้กระนั้นยิ่งแปลงเป็นว่าเมื่อหนังเล่าไปด้านหน้า

ตัวร้ายของเรื่องก็แปลงเป็นภาพผู้แสดงแบนๆที่ไม่มีมิติอื่นนอกเหนือจากความบ้าคลั่ง (นักแสดงฝั่งดารานำชายก็ไม่มีมิติอะไรก็ตามเช่นเดียวกัน) ผลสรุปทุกสิ่งคลี่คลายไปอย่างสบายจนกระทั่งผู้ชมเองบางครั้งอาจจะจะต้องย้อนกลับไปตั้งปัญหาด้วยไปว่า แล้วที่ผ่านมาที่หนังวางข้อกำหนดเรื่อง “ของกิน” รวมทั้งความมีชีวิตรอด ของนักแสดงไว้นั้น จะเอ๋ยถึงให้แปลงเป็นการขัดขาตนเองไปเพราะเหตุใด ในเมื่อหนังเลือกจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ฟาดศีรษะเข้าบ้านอย่างที่พวกเราได้มองเห็นกัน

เดิมทีแต่ก่อน Jeepers Creepers มันก็ไม่ใช่แฟรนไชส์ที่ดีโด่อะไรขนาดนั้น มันเสมือนเป็นหนัง Home VDO ที่เช่ามาดูจากตามร้านค้ากับเพื่อนพ้องๆในคืน Movie Night มองกันแบบสำราญใจๆพร้อมฟันป๊อปคอร์นกินกัน แม้กระนั้นแม้กระนั้นภาคแรกมันก็ยังมีความสยดสยอง มีความน่าสะพรึงกลัว ลุ้นระทึกตื่นเต้นอยู่บ้าง โดยยิ่งไปกว่านั้นภาค 1 แล้วก็ 2 แต่ว่าพอเพียงมาภาค 3 มันเริ่มไม่ไหวละ ยิ่งมาในภาคนี้ยิ่งเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมย่ำว่าไม่สมควรสร้างออกมาเลยจริงๆ

ฉากหนึ่งของเรื่อง ‘ฮาโดยอง’ (จองซองอิล) ผัวของพัคยอนจิน มอบรองเท้าคู่หนึ่งให้เป็นของขวัญกับเมียและก็บรรจงสวมมันให้กับคุณ มันเป็นรองเท้าส้นสูงสีเขียวเสริมแต่งเพชร งามร้องว้าวเลยจ๊ารองเท้าคู่นี้ แม้กระนั้นไอ้เจ้ารองเท้าคู่นี้นี่แหละที่ดันไปเกี่ยวโยงกับเรื่องราวหนึ่งที่เกี่ยวกับการล่องหนไปของคนคนหนึ่งรวมทั้งยังคงเป็นปัญหา เพราะว่าผู้ครอบครองรองเท้าแบบเดียวสีเดียวกันนี้มิได้มีแม้กระนั้นพัคยองจินเพียงแค่นั้น

2023 movie releases

รีวิวหนังใหม่ Jeepers Creepers Reborn

ในภาคนี้ก็บอกเล่าเรื่องราวไม่มีความแตกต่างจากเดิมเท่าไร เป็นการอิงผู้แสดงเจ้า Creepers จากของเดิม ที่ตื่นมาในทุก 23 ปี และก็ออกหากินตรงเวลา 23 วัน กรุ๊ปคราวซวยดันเข้าไปบ้านร้างปิดตาย ที่เป็นเช่นรังลับรอคอยโฉบลากหัวผู้คนอยู่ แถมยังจำเป็นต้องสู้กับพระสนมที่พร้อมจะฉกชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทให้กับลูกของตน โดยยิ่งไปกว่านั้นพระสนมฮวังประพันธ์อิน (อ๊กจายอน) ลูกหญิงจากเชื้อสายสูงส่งที่พระพันปีมุ่งหมายจะให้มาเป็นราชินี

ผู้กำกับคนประเทศญี่ปุ่น ฮิโรกาสึ วัวเรอิดะ มีชื่อเสียงในหมู่คนดูหนังในประเทศไทยมายาวนานเกือบจะ 20 ปี ตั้งแต่หนังปี 2004 เรื่อง Nobody Knows เข้าฉายในไทยและก็สร้างการเกิดยืนโรงอยู่แรมเดือน อันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดมาก่อนกับหนังชีวิตครอบครัวจากประเทศญี่ปุ่น แล้วหลังจากนั้นจาก Memory of Murder, The Host รวมทั้งที่สำคัญที่สุด Parasite)

หนังของวัวเรอิดะเข้าฉายในไทยโดยตลอดแทบทุกเรื่อง ที่เด่นๆก็ยกตัวอย่างเช่น Air Doll กล่าวถึงตุ๊กตายางที่มีชีวิต Our Little Sister เกี่ยวกับชีวิตสามสาวญาติในเมืองติดอยู่มาปะทุระ (ประเด็นนี้ดังในไทยมากมายเหมือนกัน) Like Father, Like Son เกี่ยวกับครอบครัวจุดเกิดเหตุสลับลูกกัน Shoplifters เกี่ยวกับครอบครัวขโมย อันเป็นหนังที่พาวัวเรอิดะขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับที่ได้รับรางวัลปาล์มทองคำ จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์

เพศหญิงที่เกี่ยวกับเรื่องราวความร้ายแรงในสมัยก่อน ล้วนครองรองเท้าสีเขียว ซึ่งมันงามอยู่แบบเดียวรึอย่างไร ถึงได้ซื้อมาใส่กันแบบมิได้นัด แถมมันยังน่าดึงดูดขนาดที่อีซาราเอาไปวาดภาพอีกด้วย เรื่องราวในซีซันแรกก็ตบท้ายเอาไว้อย่างงี้ละจ้ะ อีกทั้งความลับอะไรบางอย่างที่กำลังจะถูกเผย อีกทั้งปัญหารองเท้าเขียว ทั้งยังเงื่อนน่าน่ากลัวของดารานำชาย ทั้งยังการแก้เผ็ดนางเอกเริ่มไปแล้วอย่างใจร้าย งานนี้เจ็บจริงตายจริงไม่มีตายทิพย์ แล้วก็กำลังจะดุเดือดเลือดพล่านขึ้นแน่นอนในซีซัน 2 ที่จะมาในมี.ค. 2023 นี้

แล้วก็สนมอื่นๆอีกเพียบเลยที่พร้อมจะแงะเชิงชั้นมาชิงตำแหน่งรัชทายาทให้ลูกชายของตัวเอง ไม่เว้นแม้กระทั้งพระสนมแทโซยอง (คิมกาอึน) ที่ในอดีตกาลเป็นนางข้าหลวงในวังที่พระพันปีที่ส่งมาให้ แต่ว่าท้ายที่สุดก็ได้เสนอตัวเป็นพระสนมเข้าจนได้ เรียกว่าเป็นสนมที่ได้ตำแหน่งมาด้วยการถยนต์วายตัว ไม่ใช่สนมเลือกแม้กระนั้นมีหน้าที่ที่น่าติดตามมากยิ่งกว่าใครๆมากยิ่งกว่านั้นยังจำต้องปวดศรีษะกับบรรดาองค์ชายอีก 4 คนของตนเอง ที่ก่อให้เกิดปัญหาไม่เว้นวันแล้ววันเล่า

เป็นซากึกที่ใช้เบื้องหลังอยู่ในยุคโชชอน โดยมิได้อิงกับบุคคลที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์นะคะ เกิดเรื่องที่แต่งขึ้นใหม่โดยเล่าราวการฟาดลำแข้งของราชินีอิมฮวารยอง (คิมฮเยซู) แล้วก็พระพันปี (คิมแฮซุก) เรียกว่าเป็นการทำศึกการต่อสู้ของวังข้างหลังที่ข้างหนึ่งเป็นราชินีที่จำต้องกางปีกป้องกันพระบุตรชายส่วนอีกข้างเป็นพระพันปีที่ชิงชังขี้หน้าราชินีเสียมากกว่าอะไร ด้วยเหตุว่านางมิได้เลือกมาด้วยตนเอง

หนังพังทลายทุกภาคส่วน ไล่ตั้งแต่ตัวชูโรงอย่าง Creepers เลย มิได้มีความเร้นลับน่าสยอง สยดสยองอะไรอีกแล้ว เสมือนคนแต่งชุดคอสเพลไปงานแข่งขันอย่างไรแบบนั้น ด้วยบทที่ทำให้ Creepers เสมือนเป็นตัวตลกโปกฮา แถมแต่ละฉากยังโผล่มาซะชัดเกิ๊นจนถึงหมดความน่าสะพรึงกลัวเลย จากที่เคยกลัวการมาการโผล่แต่ละครั้ง ภาคนี้เวลามันโผล่มาหนถอนใจคราว รวมทั้งการฆ่าแต่ละซีนแบบพอเป็นพิธีมิได้น่าสยองเช่นเดียวกัน

รีวิว Under The Queen’s Umbrella

ชั่วโมงนี้คงจะไม่มีซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เรื่องไหนของประเทศเกาหลีที่จะเปรียบเทียบรัศมีของประเด็นนี้ไปได้ ‘Under The Queen’s Umbrella’ หรือในชื่อภาษาไทย ‘ใต้ร่มราชินี’ ที่จะต้องกล่าวว่าความหมายนี้ช่างสมควร แล้วก็สร้างความรู้สึกร่วมได้ในทันทีเมื่อได้ดูเพียงแต่ตอนต้นเพียงแค่นั้น เพราะว่ารายละเอียดที่เข้มข้นแล้วก็หลากความรู้สึกที่ครบรสประเภทที่ตักคำไหนก็อร่อยเด็ดคำนั้น รวมอยู่ที่ราชินีสุดฮาร์ดคอร์ท่านนี้ท่านเดียว

หนังใหม่ปัจจุบันของเขาเข้าโรงฉายแล้ว Broker เป็นหนังของวัวเรอิดะที่สร้าง ถ่ายทำ แล้วก็ใช้ผู้แสดงประเทศเกาหลีทั้งหมดทั้งปวง และก็เหมือนปกติอย่างกับเป็นจารีต หนังของเขาเข้าแข่งขันสายหลักที่เทศกาลเมืองคานส์เมื่อพ.ค.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เหมือนกับหนังดูเหมือนจะทุกเรื่องของวัวเรอิดะก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ครั้งนี้ผู้แสดงนำฝ่ายของเรื่อง ซอง กังโฮ ได้รับรางวัล Best Actor จากเทศกาล (ซอง กังโฮ เป็นศิลปินประเทศเกาหลีที่มีคนรู้จักกันในระดับโลกเยอะที่สุด

ใน Broker วัวเรอิดะยังคงเล่าที่เขาถนัดที่สุด เป็นเรื่องดรามาชีวิตครอบครัว รวมทั้งเหมือนเคยอีกโน่นล่ะ ครอบครัวในความหมายของวัวเรอิดะ มิได้ถูกนิยามด้วยสายโลหิต ไม่ใช่ครอบครัวที่พวกเราไม่มีสิทธิ์เลือกเนื่องจากพวกเราบังเอิญเกิดขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด แม้กระนั้นเป็นครอบครัวด้ามจับพลัดจับผลูมารวมตัวกันแล้วก็กำเนิดความสัมพันธ์ผ่านความยากแค้นหลากหลาย

เป็นครอบครัวที่นักแสดงสามารถ “เลือกได้” ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของมันหรือเปล่า ผู้ใดกันจะว่าวัวเรอิดะทำหนังเป็นอยู่แบบเดียวบ่อยๆ(ซึ่งก็ไม่จริง) แต่ว่าไอ้หนังแบบเดียวของเขา ไม่ต่างอะไรจากต้นไม้ใหญ่ที่มีลำต้นเพียงแต่หนึ่ง แต่ว่าแตกกิ่งก้านสาขาออกไปได้ไม่มีหยุดหย่อนยาน Broker เป็นเยี่ยมในกิ่งเล็กๆปัจจุบันที่ผลิแตกออกมาจากลำต้นนั้น ให้นำเด็กแบเบาะมาทิ้งเอาไว้ภายในกล่องนี้แทนที่จะไปทิ้งตามกองขยะ เพื่อเด็กจะถูกส่งต่อไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า หรือไม่ก็หาบิดามารดามาชุบเลี้ยง

ราชินีหัวข้อนี้เรียกว่าเป็นราชินีที่เดินเร็วที่สุดในโชชอนก็ว่าได้ เนื่องจากจำต้องทำเวลาแข่งขันกับความป่วนปั่นของลูกๆไหนจะโดดเรียนจนถึงเป็นที่สุดท้ายในโรงเรียน และก็ร่ำร้องต้องการจะโตไวๆแม่จะได้ให้สมรสไปอยู่นอกวังซะหน ไหนจะแอบออกท่องเที่ยวตามหอพักหญิงบริการให้แม่ต้องตามจิกตามทึ้งอย่างที่ไม่มีองค์ชายของสนมองดูค์ไหนจะกล้าทำ แม้กระนั้นยังไงซะราชินีก็ยังมีลูกชายคนโตให้มีหน้ามีตากับเขาอยู่คนนึง

ทางด้านบทนี่หนักเลยนี่เป็นหนังความยาวเกือบจะชั่วโมงครึ่งที่ไม่สมควรจะยาวขนาดนี้ 2023 movie releases เนื่องจากบทโคตรย่ำคงที่ เสมือนผู้เขียนบทอุตสาหะจะมีผลให้หนังมองมีอะไร มีความเพียรพยายามจะเล่นกับพิธีการเซ่นสังเวย พานักแสดงไปพบเรื่องราวโน่นนี่ เสมือนแบบหมดมุกแล้วอะ ไม่รู้เรื่องจะเขียนอะไรแล้ว ยิ่งช่วงท้ายๆนี่หนักเลย วนอยู่ในบ้านข้างหลังเดียว สักครู่เข้าห้องนู่นคราวออกห้องนี้ครั้ง ขึ้นบนครั้งลงด้านล่างหน

แต่ว่าอยู่มาไม่นานความไม่น่าจะกำเนิดก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อองค์รัชทายาทกำเนิดล้มป่วยเป็นโรคเดียวกับรัชทายาทในรัชกาลก่อนที่จะสิ้นพระชนม์ด้วยเหตุว่าโรคนี้ ส่งผลให้บัลลังก์ราชินีเริ่มง่อนแง่นตามไปด้วย เพราะว่าแม่เสือหิวอย่างพระพันปี ที่จ้องมองจังหวะนี้มานานแล้ว ก็ได้โอกาสโดยใช้ลูกชายของบรรดาพระสนมเป็นหมากบอร์ดใหม่เพื่อแย่งตำแหน่งรัชทายาท และก็หาเรื่องเปลี่ยนแปลงราชินี ก็เพื่ออำนาจของตนนั่นแหละจ้ะ

งานหนักก็ตกมาอยู่กับราชินีที่จำเป็นต้องปั้นองค์ชายทั้งยัง 4 ให้สู้กับบรรดาองค์ชายองค์อื่นๆให้ควรได้ ในขณะที่บรรดาพระสนมก็อุตสาหะทุกแนวทางเพื่อสนับสนุน ให้ลูกชายของตัวเองได้ผงาดขึ้นไปแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทกับเขาบ้าง สักหนึ่งครั้งหนังอิงจากความเป็นจริงในประเทศเกาหลีใต้ กล่าวถึงแผนการ baby box หรือกล่องเด็กทารก ที่สถานสงเคราะห์ตั้งไว้เพื่อแม่ที่ออกลูกสุดแท้แต่พบว่าตนเองไม่พร้อมจะเลี้ยง

เรื่องราวในหนังเกิดขึ้นเมื่อ ซองฮยัง (ซอง กังโฮ) บุคลากรของสถานสงเคราะห์ ลักขโมยเด็กอ่อนที่ถูกเอามาทิ้งเอาไว้เพื่อเอาไปขายต่อให้บิดามารดาที่ไม่ได้อยากต้องการเลี้ยงดูเด็กผ่านขั้นตอนการที่ถูก (อาทิเช่นคู่ชีวิตที่มิได้ลงทะเบียนกัน หรือคู่เพศเดียวกัน) ส่วนคู่ขาในขั้นตอนค้าเด็กของเขาเป็น ดองซู (กัง ดองวอน) อดีตกาลลูกกำพร้าสถานที่สำหรับทำงานสถานสงเคราะห์ด้วยเหมือนกัน

ประเด็นนี้ประเดิมมาด้วยชุดแดงแรงฤทธิ์ของราชินีสุดเฟี้ยว ที่กำลังเดินฉับๆเข้าไปในบ้านข้างหลังหนึ่งพร้อมด้วยปิ่นปักผมในมือ อาร์เซน่อล แล้วตรงเข้าล้วงลูกชายของตนเองที่กำลังนอนฤดูอยู่กับสาวสวยนางหนึ่งออกมาจากที่พักผ่อน รวมทั้งตรงเข้าไปใช้ปิ่นสำหรับปักผมจักจี้คอหอยของสาวสวยนางนั้นเมื่อนางถามคำถามว่า “ท่านเป็นผู้ใด เพราะเหตุใดเสียมารยาทแบบนี้เจ้าค่ะ” ด้วยเหตุว่าองค์รัชทายาท (กาง อินฮยอก) นั้นช่างเฉลียวฉลาด มั่งคั่งไปซะทุกสิ่ง

รวมทั้งคำตอบของพระนางก็ทำให้สาวสวยนางนั้น จำเป็นต้องกลัวเป็นเต่าหัวหด “ก็เป็นผู้ที่ไม่ว่าต้องการทำเรื่องบ้าอะไร ก็สามารถปฏิบัติตามที่หัวใจอยากได้” จบปะขาอีหนู แหมเริ่มอย่างงี้ มันน่าติดตามดีไหมล่ะ ด้วยความสามารถการแสดงสุดตื่นเต้นของ คิมฮเยซู ตุลาการสุดเฮี้ยบจากซีรีส์ ‘Juvenile Justice’ (2022)งานภาพนี่ยิ่งหนักเลย หลายซีนลอยมากมาย ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นหนังฉายโรงในปี 2022 เสมือนหนังเกรด C ลงไป

ซึ่งมันห่วยแตกขนาดที่ว่า ภาคแรกยังดูดีกว่าอะ ภาคแรกในที่นี้เป็นเมื่อปี 2001 อะ 20 กว่าปีแล้วลองคิดดู ตลอดทั้งเรื่องมีแต่ว่าฉากที่น่ากุมขมับ ยิ่งไอ้ซีนด้านหลังเรื่องยิ่งหนักเลย ภาพแบบไม่ไหวเลยจริงๆด้านดาราเล่นกันแข็งมากมายกกกกกก คำบอกเล่าแต่ละคำราวกับแบบยืนอ่านบทกัน ท่าทางบางโอกาสก็อยู่เฉย บางครั้งก็โอเวอร์แอ็คติ้ง และก็ทุกนักแสดงน่าเบื่อหน่ายเป็นที่สุด สล็อตทุนน้อย ezc4s โดยเฉพาะอย่างยิ่งดารานำชาย ภาวนาให้มันโดนโฉบไปตั้งแต่ต้นเรื่องละ เป็นตัวละครที่น่าเบื่อหน่ายทุกท่าทางบท